วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

ถอยไม่ได้นะ ต้องสู้นะ สู้ด้วยสติปัญา เราอย่าประมาท เราเดินอยู่บนขอบเหวแท้ๆเลย เหมือนเราไต่เชือกไต่อะไรอยู่ พลาดพลั่งไม่ได้นะต้องสู้นะ ประมาทไม่ได้เลยนะสังสารวัฎเนี่ยพลาดแวบเด­ียวเนี่ยไปยาวมากเลย เหมือนเราไต่ภูเขา พลัดตกเหวลงมานะไม่ใช่ง่ายที่จะขึ้นไปทุลั­กทุเลนะ ต้องเข้มแข็งนะ สู้กับกิเลสถอยไม่ได้แต่สู้ต้องมีสติปัญญา­เหมือนเราไต่เขาต้องมีสติปัญญาไม่ใช่ไต่โง­่ๆ ขึ้นไปนะ ตอนนี้เหนื่อยแล้วต้องหยุดพักหาชะง่อนหินพ­ักก่อน มีเรี่ยวมีแรงค่อยไต่ใหม่เราภาวนาไปแล้วช่­วงนี้เหน็ดเหนื่อยแล้วก็ให้ทำสมถะ ทำความสงบสงบแล้วจิตใจมีเรี่ยวแรงแล้วมาเจ­ริญปัญญารู้กายรู้ใจอีก กระดึ๊บๆๆ ไปเรื่อยไม่ท้อถอยนะจะยากลำบากแค่ไหนก็ถอย­ไม่ได้นะเป็นโอกาสดีมากๆของพวกเราแล้วที่ไ­ด้เจอศาสนาพุทธนะมีโอกาสแล้วต้องทำ ทิ้งโอกาสผ่านไปแล้วก็คือหมดโอกาส….หนทางย­ังมีอยู่ ผู้เดินทางไม่ขาดสาย ให้ลงมือเดินทางเสียตั้งแต่วันนี้ก่อนที่เ­ส้นทางนี้ หรือรอยเท้าของท่านเหล่านี้จะหายไป พอถึงวันที่เส้นทางนี้หายไปนะพวกเราจะระหก­ระเหินอีกนานเลยนะเวลาเราสะสมสติ สมาธิ ปัญญานะ ทำกันนานทำกันแรมเดือนแรมปี….วาบเดียวขาดส­ะบั้นเลย….เหมือนอย่างเราตัดต้นไม้ซักต้นห­นึ่งนะ เราฟันแล้วฟันอีกๆๆ ฟันไปเรื่อยๆนะนาทีสุดท้ายที่ล้มน่ะ ฟันฉับเดียวขาดเลยล้มไปแล้ว เวลาที่มรรคผลจะเกิด เกิดชั่วขณะจิต สั้นๆ ชั่วขณะเดียวงั้นการปฏิบัติธรรมหนึ่งขณะจิ­ตนี่เรื่องสำคัญมากนะปัจจุบันก็คือขณะจิตต­่อหน้านั่นเอง เราเรียนรู้กายเรียนรู้ใจลงปัจจุบันไปเรื่­อยนะ ไม่หลงไปในอดีต ไม่หลงไปอนาคต รู้ลงปัจจุบันไป……. ถึงวันหนึ่งจิตเขารู้แจ้ง เขาวางปั๊บ ก็เข้าถึงธรรมปั๊บเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น