เหตุของสติคือการที่จิตจดจำสภาวธรรมคือรูปนามได้แม่นยำ
จิตจะจดจำสภาวธรรมได้แม่นยำ ถ้าจิตเคยเห็นสภาวธรรมบ่อยๆ
ดังนั้นพึงหัดทำความรู้จักสภาวธรรมให้มากเข้าไว้
เบื้องต้นทำกรรมฐานอันใดอันหนึ่งที่ถนัด
เช่นบริกรรมพุทโธ หรือระลึกรู้ลมหายใจ หรือระลึกรู้ท้องพองยุบ
หรือระลึกรู้เท้า หรือระลึกรู้มือ หรือระลึกรู้กายทั้งกาย
แล้วตามรู้ความเปลี่ยนแปลงของจิตไปเลย
เช่นเผลอไปจากอารมณ์กรรมฐานนั้นก็รู้
เพ่งอารมณ์กรรมฐานนั้นก็รู้
เป็นสุขก็รู้ เป็นทุกข์ก็รู้
เกิดกุศลก็รู้ เกิดอกุศลก็รู้
ไม่นานสติจะเกิดถี่ยิบขึ้นได้เพราะจิตรู้จักและจดจำสภาวธรรมได้อย่างแม่นยำ
นี้เป็นทางดำเนินของพระอริยเจ้า
เรียกว่าอริยสัจจ์ ๔ อันมีวนรอบ ๓ คือสัจจญาณได้แก่ความรู้จักตัวอริยสัจจ์
กิจญาณคือความรู้หน้าที่หรือกิจต่ออริยสัจจ์แต่ละข้อ
และกตญาณคือการได้ทำกิจต่ออริยสัจจ์แต่ละข้อนั้นเรียบร้อยแล้ว
รวมมีปริวัติ ๑๒ เพราะมีอริยสัจจ์ ๔ ข้อ แต่ละข้อมีญาณ ๓ อย่าง
พระพุทธเจ้าทรงประกาศว่า
ตราบใดที่พระองค์ท่านยังทรงไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์ ๔
อันมีวนรอบ ๓ และมีปริวัติ ๑๒ นี้
พระองค์จะไม่ปฏิญาณพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าเลย
ต่อเมื่อทรงรู้แจ้งแทงตลอดอริยสัจจ์ ๔ อันมีวนรอบ ๓ และมีปริวัติ ๑๒ นี้แล้ว
จึงทรงปฏิญาณพระองค์ว่าเป็นพระพุทธเจ้า
อริยสัจจ์ ๔ สำคัญถึงขนาดนี้
แม้พระอรหันตสาวกก็ต้องรู้แจ้งอริยสัจจ์ ๔
เพราะตราบใดที่ยังไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์ ๔
ตราบนั้นยังไม่ใช่พระอรหันต์
จึงขอให้ลูกทั้งสองสนใจศึกษาธรรมนี้ให้ดีเถิด
หลวงพ่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น