วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

การเข้าถึงสัจจะ ท่านจะไม่โดดเดี่ยวเดียวดายอีกต่อไป “จิตวิญญาณ” ของมนุษย์นั้นมีอยู่จริง นอกจากนี้มันยังสามารถที่จะแยกตัวออกจาก “กายหยาบ” ของเราได้ และถ้า “กายหยาบ” ปราศจากซึ่ง “จิตวิญญาณ” แล้ว มันก็ไม่สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วย กล่าวคือขณะที่เราฝันแบบรู้ตัว(LucidDreaming Effect)นั้น ตัวต้นของเราที่อยู่ในความฝันความจริงแล้วมันก็คือ “จิตวิญญาณ” หรือ “ตัวตนที่อยู่ในรูปของพลังงาน” ของเรานั้นเอง ปกติแล้ว จิตวิญญาณ ดังกล่าวก็จะดำรงอยู่ในโลกที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาซึ่งก็คือ “โลกความฝัน” โดยในความฝันปกติที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้นั้นก็เป็นเพราะ “จิต” ของเราขาดสมาธิ ความฝันจึงดำเนินไปตามจิตใต้สำนึกเป็นหลัก เมื่อความฝันจบลงเราก็จะตื่นขึ้นโดยไม่มีผลอะไรตามมา แต่ในกรณีที่เราฝันแล้วจิตของเราในตอนนั้นมีสมาธิที่สูง กรณีนี้ตัวเราจะสามารถควบคุมจิตวิญญาณของเราเองได้ สามารถกำหนดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในความฝันได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่สามารถที่จะนำจิตวิญญาณของเราออกมาจากโลกของความฝันได้อยู่ดี เมื่อระดับสมาธิของเราต่ำลงถึงจุดหนึ่งเราก็จะไม่สามารถควบคุมความฝันได้อีก ความฝันของเราก็จะกลายเป็นความฝันปกติ หรือไม่เราก็จะตื่นจากความฝัน มีทางเดียวเท่านั้นที่เราจะสามารถนำดวงจิตของเราออกจากความฝันได้นั้นก็คือ เราต้องทำให้จิตของเราหยุดปรุงแต่ง หรือพูดง่ายๆแต่ทำยากมากๆนั้นก็คือ เราต้องหยุดคิดให้ได้ในขณะที่เรามีสมาธิสูงอยู่นั่นเอง “หยุดคิด” มันจะเป็นไปได้อย่างไร ตราบใดที่เรายังหายใจอยู่มีช่วงเวลาไหนที่มนุษย์เราจะหยุดคิดได้ด้วยหรือ แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้แต่มันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น