วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

กายนครสู่อมตมหานคร จะกล่าวถึงหลวงพยาธิและขุนโรคา ครั้นเห็นท้าวจิตราชล่องนาวาธรรม ทิ้งพระนคร มิมีท่าทีต่อกร จึงชวนหลวงชราไปเข้าเฝ้าพระยามัจจุราชราชา กราบทูลความ “ขอเดชะ เหล่าข้าพระพุทธเจ้า ได้ช่วยกันโจมตีกายนครได้แล้ว จิตราชราชาเสด็จล่องนาวาธรรมหลีกลี้หนีพระองค์ไปสู่ อมตมหานคร พระองค์รีบเสด็จตามไปเถิด พระเจ้าข้า” พระยามัจจุราชกษัตริย์ได้สดับคำกราบทูลของเหล่าทแกล้วมรณานครดังนั้น จึงระสั่งระดมพลครั้งสุดท้าย ยกออกติดตามท้าวจิตราชทันที ครั้งถึงฝั่งมหานที ทัพของมัจจุราชบรมกษัตริย์ก็มิอาจยกไปให้ทันได้เสียแล้ว พระยามัจจุราชแค้นพระทัยมาก จึงรับสั่งให้ หลวงมรณัง ทหารเอกตามไปสังหารให้จงได้ หลวงมรณังทหารเอกเมื่อได้รับพระบัญชาดังนั้น จึงรีบเหิรเวหานภาอากาศติดตามจิตตราชราชา กับเหล่ายมบาลทหารกล้าของหลวงมรณัง ครั้นทัพของหลวงมรณัง ถึงนาวาธรรมของพระยาจิตราช ก็ต่างเร่งโจมตีหวังจะจู่โจมล่มเรือของท้าวจิตราชให้ได้ แต่ก็มิสามารถ แม้แต่จะเอื้อมไปจับเสากระโดงเรือได้ จะทำอย่างไรๆ ก็ไม่อาจล่มเรือได้ บรรดาเหล่ากุศลเสนาของจิตราชราชาที่อยู่ในเรือต่างก็หัวเราะอยู่อึงมี่ ที่กองทัพของพระยามัจจุราชมิอาจสามารถทำอะไรได้ ท้าวจิตราชทรงมีพระทัยผ่องแผ้ว ทรงสำรวลร่าเริง ที่ทัพของพระยามัจจุราชไม่สามารถทำอะไรได้ จึงมีพระวาจากู่ก้องนภากาศ กังวาลไปกระทบโสตของพระยามัจจุราช ที่ฝั่งมหานที ว่า “ดูกร ท้าวมัจจุราช ท่านอย่ามาราวีเสียให้ยากเลย พระองค์ท่านแลบริวารทำอะไรเราไม่ได้ดอก เรายกเมืองให้ท่านแล้ว เชิญเอาไปตามสบายเถิด ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ในนั้นเรายกให้ เชิญกลับไปเถิดเราจะไม่เจอะเจอกับท่านอีกต่อไปแล้ว เชิญกลับไปเถิด” พระยามัจจุราชเห็นว่าสุดกำลังที่จะติดตามไปได้แล้ว จึงรับสั่งเรียกหลวงมรณังพร้อมกองทัพยมบาล แลกำลังพลทั้งหลายกลับตีเมืองอื่นต่อไป ท้าวจิตราชเมื่อเห็นข้าศึกกลับไปหมดแล้ว ก็แล่นนาวาต่อไป ท้องนทีธารเรียบเงียบสงัด ไม่มีคลื่น ไม่มีลม นภากาศแม้ค่ำมืดแต่ยังสว่างไปด้วยแสงธรรม ในไม่ช้านาวาธรรมก็ถึงอมตมหานคร อมตมหานคร นี้ มีศีลเป็นกำแพงเมือง มีปัญญาเป็นหอรบ อินทรีย์สังวรเป็นทวารบาล อัษฎางคิกมรรคเป็นวิถีทางในนคร โพธิปักขิยธรรม ๓๗ เป็นพระคลังหลวง ภาวนาเป็นยอดปราสาท พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ เป็นพระราชอาสน์ พระไตรลักษณ์เป็นห้องบรรทม พระวิมุตติญาณทัศนะเป็นดวงประทีป เมตตาเป็นสระโบกขรณี กรุณาเป็นสายธารา มุทิตาเป็นต้นกัลปพฤกษ์ อุเบกขาเป็นเนินทราย เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ของพระอริยะ เป็นเมืองบรมสุข ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บ ไม่มีตาย คติธรรมประจำเมือง คือ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ – พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นตฺถิ สนฺติ ปรมํ สุขํ – สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ฯ ท้ายสุด พระเจ้าจิตราชราชาบรมกษัตริย์แห่งมหาอมตมหานคร ทรงมีพระราชสารมายังทุกท่านว่า “ณ ที่นี้ เราคอยต้องรับพวกท่านอยู่ เพียงแต่ท่านพร้อมหรือยังที่จะมาสู่อมตมหานคร” ----- อวสาน กายนครา นิฏฐิตา -----

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น