วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ทางสายกลาง

เวลาที่จิตจะเกิดมรรคผลนั้น จิตจะรวมเข้าอัปนาสมาธิ

เพราะฉะนั้นเวลาท่านพูดถึงองค์มรรคเนี่ย สัมมาสมาธิ 
ท่านจะพูดด้วยอัปนาสมาธิ ด้วยฌาน ๔ 
พวกเราตอนที่เจริญสติอยู่นี่เรียกว่า เจริญบุพพภาคมรรค 
เบื้องต้นแห่งมรรคยังไม่เป็นฌานนะ 
เราหัดเจริญสติอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างนี้ ถึงวันที่อริยมรรคจะเกิด
จิตจะรวมเข้าฌานโดยอัตโนมัตินะ จิตเวลาที่เกิดมรรคเกิดผล
จะไม่เกิดในจิตของคนธรรมดา นี่เรียกว่ากามาวจรจิต กามาวจรภูมิ 
ไม่เป็นอย่างนั้น จะต้องเข้าฌานนะ เมื่อมันรวมเข้าไปแล้วมันจะเห็น
สภาวะธรรมนี่เกิดดับสองขณะหรือสามขณะ แต่ละคนไม่เท่ากันนะ 
ถัดจากนั้นจิตจะวางการรู้อารมณ์ ทวนกระแสเข้ามาหาธาตุรู้ 
สิ่งที่ห่อหุ้มปกคลุมธาตุรู้อยู่นี่ ถูกอริยมรรคแหวกออกไป
แล้วก็มันจะไปเห็นนิพพานนะ นิพพานไม่ใช่ว่างเปล่า
#นิพพานไม่ใช่โลกๆหนึ่ง 
#พวกเรายังไม่เคยเห็นเราก็วาดภาพสุดโต่งไปสองข้างข้างหนึ่งก็นิพพานเป็นโลกๆหนึ่งพวกนี้พวกสัสตะทิฐิมีของที่เที่ยงคงที่ 
#อีกพวกหนึ่งคิดว่านิพพานสูญไปเลยขณะนั้นไม่มีอะไรเหลือเลยกระทั่งสติพวกนี้หลงไปล่ะคิดว่านิพพานไม่มีอะไรเลยนี่พวกอุจเฉททิฐินะนิพพานมีนะ นิพพานมีสภาวะรองรับ 
#สภาวะของนิพพานคือสันติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น