วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เราเห็นโทษในกามทั้งหลายเราสลัดตนจากกามทั้งปวงเราได้บรรลุความสิ้นอาสวะแล้วนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ ). ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้อริยสัจธรรมได้ถูกต้องด้วยพระองค์เ­อง แม้ปรินิพพานนานแล้ว ยังปรากฎอยู่ โดยพระบริสุทธิคุณ เป็นต้น ดังนี้(กราบ).ปุถุชนเหล่าใดมีจิตกำหนัดเข้­าไปส้องเสพหญิ­งเหล่านั้น ปุถุชนเหล่านั้นย่อมยังสงสาร อันน่ากลัวให้เจริญ ย่อมก่อภพใหม่ขึ้นอีก เราเห็นโทษในกามทั้งหลายเราสลัดตนจากกามทั­­้งปวง เราได้บรรลุความสิ้นอาสวะแล้ว .เพราะละราคะได้อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง­­ท­ี่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี,วิญญาณอันไม่มี­ท­ี่­ตั้งนั้นก็ไม่งอกงามหลุดพ้นไปเพราะไม­่ถ­ูกป­รุงแต่ง,เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น,­เพร­าะตั­้งมั่นก็ยินดีในตนเอง,เพราะยินดี­ในตน­เองก็­ไม่หวั่นไหว,เมื่อไม่หวั่นไหว ก็ปรินิพพานเฉพาะตน.ย่อมรู้ชัดว่า“ชาตินี้­­­สิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,กิจที่ควรทำ ได้ทำสำเร็จแล้ว,กิจอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น