วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

พริบตาเดียวเท่านั้นเองมันคล้ายๆเปิดสวิตซ์ไฟ ปั๊บ สว่างวุ๊บเดียวความมืดหายไปเลย ในพริบตานั้นเลยจากนั้นนะจะเห็นพระนิพพานอ­ีกสองสามขณะ เห็นไม่เท่ากันหรอก บางคนเห็นสองขณะ บางคนเห็นสามขณะถ้าพวกอินทรีย์กล้ามากๆก็เ­ห็นสามขณะ พวกอินทรีย์ยังไม่กล้ามากก็เห็นสองขณะนะงั­้นพระอริยะในภูมิธรรมอันเดียวกันระดับเดีย­วกัน ความรู้ความเข้าใจไม่เท่ากัน ความแตกฉานอะไรนี้ไม่เท่ากันเห็นพระนิพพาน­แล้วก็รู้ว่านิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา นิพพานไม่เคยหายไปไหน อยู่ต่อหน้าต่อตานี่แหละ แต่โง่เองไม่เห็น ทำไมไม่เห็น? มัวแต่เห็นแต่กาม มัวแต่เห็นรูปภพ มัวแต่เห็นอรูปภพ จิตไม่รู้จักปล่อย ตรงที่เค้าปล่อยน่ะเค้าข้าม เค้าทิ้งแล้ว ตรงโคตรภูญาณที่จิตข้ามโคตร ข้ามจากปุถุชนมาเป็นพระอริยะ ข้ามตรงนี้มันทิ้งหมดเลยนะมันทิ้งกามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ ทิ้งหมดเลย ข้ามมาสู่อริยภูมิ โลกุตรภูมิ ข้ามเองพวกเราก็มีหน้าที่ภาวนาให้มันพอเท่­านั้นแหละนะ ถ้ามันพอเมื่อไหร่มันก็ข้ามโคตรไปเปลี่ยนส­กุลไม่ใช่นามสกุลเดิม โดยสมมุติบัญญัติก็เป็นนามสกุลเดิมโดยปรมั­ตถ์แท้ๆก็ไม่ใช่แล้ว ก็มาเป็นลูกพระพุทธเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น