วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

ความรู้สึกของพระโสดาบัน

วิปัสสนาไล่ขึ้นไปเรื่อย ถึงสังขารุเบกขาญาณวิปัสสนาสูงสุดแล้ว

สังขารุเบกขาญาณคือจิตมันเห็นความจริงจนกระทั่งมันเป็นกลางกับความปรุงแต่งทั้งปวง
เห็นเลยสุขกับทุกข์นั้นเท่าเทียมกัน เพราะว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน
กุศล อกุศล ทั้งหลายเท่าเทียมกัน ด้วยความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน
จิตยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเสมอกันหมด
ใจที่ภาวนามาถึงจุดนี้จะรู้สึกโลกนี้ราบเป็นหน้ากลอง เสมอกันไปหมดเลย
ดูไปนี่นะใจมันไม่กระเพื่อมขึ้นมานะ ชอบคนนี้เกลียดคนนี้ไม่มีเลย
ตัวนั้นน่ะใจเข้าไปสู่ความเป็นกลางด้วยปัญญา ถัดจากนั้นกระบวนการเกิดอริยมรรคถึงจะเกิดขึ้น
ก็จะมีตั้งแต่อนุโลมญาณ(สัจจานุโลมิกญาณ) โคตรภูญาณ มัคคญาณ ผลญาณ ปัจจเวกขณญาณ
ในกระบวนการที่เกิดอริยมรรคก็มีตั้งแต่ อนุโลมญาณ โคตรภูญาณ มัคคญาณ ผลญาณ
เนี่ยอยู่ในกระบวนการที่จะเกิดอริยมรรค
กระบวนการนี้จบแล้วยังจะเกิดญาณตัวที่สิบหก ปัจจเวกขณญาณ
ทวนเข้าไปพิจารณาว่าตอนที่เกิดอริยมรรคนั้นล้างกิเลสอะไรไปบ้าง
กิเลสอะไรยังไม่ล้าง จะทวนเข้าไปดู ก็รู้ว่างานยังไม่เสร็จ
ถ้างานเสร็จแล้ว ก็ทวนเข้าไปดูเห็นความเสร็จแล้ว
จิตจะไปพิจารณานิพพานได้แล้ว ไปทำความรู้แจ้งในตัวนิโรธ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น