วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

จิตปรุงแต่งก็ให้รู้ว่าจิตปรุงแต่ง ทางรอดทางเดียวของเราคืออย่างนี้ครับ จิตจะปรุงแต่งอะไรไม่สำคัญนะ ปัญหาไปอยู่ที่เราไปปรุงแต่งจิต จิตจะปรุงความสุข ปรุงความทุกข์ ปรุงกุศล ปรุงอกุศล ไม่ใช่ปัญหาเลย จิตเขาก็ทำงานไปตามความคุ้นเคยของเขานั่นแหละ ยกตัวอย่างเราเดินอยู่ดีๆ เรามีนิสัยขี้โมโห เดินๆอยู่นะ คนมาเหยียบขาเราหน่อยนะ โมโหแล้วนะ ความโกรธเกิดขึ้นนี้ จิตปรุงความโกรธขึ้นมา ไม่ใช่ปัญหานะ จิตมันโกรธไม่ใช่ปัญหา เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปห้ามมัน แต่พอจิตมีความโกรธขึ้นมาแล้วเนี่ย ถ้าใจคล้อยตามความดโกรธเนี่ย เป็นปัญหาละ หรือถ้าใจต่อต้านความโกรธ เป็นปัญหาละ ใจต่อต้านความโกรธ เช่น พอโกรธปุ๊บ อุ๊ยโกรธไม่ดี ไม่โกรธดีกว่า ใช่มั้ย เข้าไปสู่ความเป็นคู่แล้ว อันหนึ่งดีอันหนึ่งไม่ดีละ เริ่มให้ค่าๆ ใจก็เริ่มดิ้นสิ ทำอย่างไรจะหายโกรธ ก็ดิ้นๆใหญ่นะ พุทโธๆ โกรธหนอๆ จะให้หายโกรธนะ ตรงนี้แหละใจเรากำลังปรุงแต่งอยู่ เพราะฉะนั้น จิตใจนะ มันมีธรรมชาติปรุงแต่งของมันเองอยู่แล้ว ไม่เป็นไร มันจะปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่ว ไม่เป็นไร แต่พอสติเราไประลึกรู้แล้วเรารู้ไม่ทันขึ้นมาจริงๆนะ มันเกิดยินดียินร้าย ยินดียินร้ายแล้วคราวนี้ล่ะ เราปรุงแต่งล่ะ ไม่ใช่จิตปรุงนะ แต่เราปรุงแต่งล่ะ ตัวนี้คือตัวปัญหา มันง่ายกว่าที่นึกนะ ง่ายสุดขีดเลย เพราะเราไม่ต้องทำอะไร เราดูกายดูใจเขาทำงานของเขาไป เราดูกายดูใจเขาปรุงแต่งของเขาไป แล้วเราไม่ต้องทำอะไร รู้ลูกเดียว* รู้แล้ววันหนึ่งแล้วจะเข้าใจเลย กายกับใจเป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่ง เรียก สังขตธรรม เป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่ง ไม่ใช่ไปฝึกให้มันไม่ปรุงแต่ง แต่เมื่อมันปรุงแต่งแล้วเราไม่หลงยินดียินร้าย เราไม่ไปช่วยมันปรุงแต่ง ตัวนี้ต่างหากล่ะ สบายเลยคราวนี้ จิตใจนะไม่ต้องทำงาน จิตใจว่างงาน ที่ว่าสิ้นชาติสิ้นภพจบพรหมจรรย์ สิ้นชาติคือจิตไม่ไปหยิบฉวยรูปธรรมนามธรรมใดๆขึ้นมายึดถือไว้ให้เป็นภาระหนักหน่วงถ่วงจิตใจอีกต่อไป สิ้นภพคือสิ้นการทำงานทางใจ สิ้นชาติ สิ้นภพ จบพรหมจรรย์ คือไม่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้การปฏิบัติธรรมใดๆอีกแล้วนะ งานทำเสร็จแล้ว เพราะใจปล่อยวางไปหมดแล้ว ใจพ้นจากการปรุงแต่ง พ้นจากการทำงานแล้ว เนี่ย พ้นไปได้อย่างนี้นะ เข้าถึงสันติสุขที่แท้จริง มีแต่ความสุขล้วนๆ ทีนี้จะพ้นได้ก็เพราะมีสติขึ้นมา รู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจไป โดยที่ไม่ไปช่วยมันปรุงแต่ง พอเรารู้ทันการปรุงแต่งของกายของใจนะ ใจมันก็จะปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่วอะไรขึ้นมา ก็แล้วแต่มัน ไม่ห้ามมันหรอก ไม่ใช่ว่าจะต้องดีด้วยซ้ำไป ไม่ใช่ฝึกเอาดีนะ ไม่ใช่ฝึกเอาดี ไม่ใช่ฝึกเอาสุข ไม่ได้ฝึกเอาสงบ แต่ฝึกเพื่อเห็นเลยว่า จิตใจมันก็ทำงานของมันไป ในใจเรารู้ทันแล้วก็เป็นกลาง ไม่ไปแตะต้องแล้วก็ไม่ไปทำอะไรมัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น