เรื่องเรียบง่ายและธรรมดาที่เรียกว่าธรรมะ
“ธรรมะจริงๆ ง่ายมากเลย ง่ายเแบบเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดเลย เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด คือเรื่องของตัวเราเองนี่เอง เรื่องของกายเรื่องของใจนี่เอง ทีนี้เราไปวาดภาพธรรมะเอาไว้จนยุ่งเหยิง เราคิดว่าการปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำอะไรที่เหนือธรรมดา แล้ววันหนึ่งจะได้สิ่งที่เหนือธรรมดา อันนั้นเข้าใจผิด
การปฏิบัติธรรมจริงๆ ก็คือการศึกษาธรรมะนั่นเอง ธรรมะก็คือกายกับใจ กายเรียกว่ารูปธรรม ใจเรียกว่านามธรรม ให้เราศึกษากาย ศึกษาใจ ศึกษาไปเรื่อย ตามดูว่าความเป็นจริงของกายเป็นยังไง ความเป็นจริงของใจเป็นยังไง ตัวความเป็นจริงนั่นแหละ ตัวธรรมะ ถ้าเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจ ก็คือเข้าถึงธรรมะ
ถ้าวันใดเข้าใจธรรมะแล้ว เห็นว่ากายกับใจไม่ใช่ตัวเรา อันนี้แหละที่เรียกว่ามีดวงตาเห็นธรรม พระโสดาบันมีดวงตาเห็นธรรม คือได้เห็นความจริงว่ากายกับใจไม่ใช่เรา ตัวเราไม่มี…”
“ยากมาก ที่คนๆ หนึ่งจะสามารถเข้าสู่ทางสายกลางนี้ได้ ถ้าไม่ได้เคยได้ยินได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า จะไม่รู้ว่าตรงนี้เป็นของสำคัญปฐมเทศนา คือธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระพุทธเจ้าเริ่มต้นจากบอกว่า มีสิ่งสองสิ่ง ที่บรรพชิตหรือผู้ปฏิบัติไม่ควรเอา สองสิ่งนั้น อันหนึ่งก็คือ กามสุขัลลิกานุโยค การปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลส ก็คือหลงไปนั่นเอง ไปดูรูป แล้วก็หลงกับรูป ไปฟังเสียงก็หลงกับเสียง ไปดมกลิ่นไปลิ้มรส ไปรู้สัมผัสทางกายก็หลงออกไปข้างนอกหมด ไปรู้อารมณ์ทางใจก็หลงทางใจ หลงคิดหลงนึกหลงปรุงหลงแต่งไป อันนี้เป็นเรียกว่าตามกิเลสไป เรียกว่า กามสุขัลลิกานุโยค ผู้ปฏิบัติไม่ควรทำอันที่สองที่ผู้ปฏิบัติไม่ควรทำ ชื่อ อัตตกิลมถานุโยค การทำกายทำใจให้ลำบาก ผิดธรรมดา กายกับใจนั้นลำบากอยู่แล้ว ทุกข์อยู่แล้วโดยธรรมชาติธรรมดา เราต้องการเห็นตรงนี้ แต่ว่าพอเราลงมือปฏิบัติ เราไปแกล้งทำให้มันเครียดมากกว่าเก่า ร่างกายก็แข็งๆ ทือๆ จิตใจก็ถูกกดเอาไว้นิ่งๆ ไม่สบาย เป็นการทรมานตัวเอง บังคับกายบังคับใจมากไปสองสิ่งนี้แหละที่ไม่ควรทำ อันหนึ่งคือเผลอไป อันหนึ่งคือเพ่งเอาไว้ ถ้าไม่เผลอ ถ้าไม่เพ่ง ใจเราจะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เราต้องมาพัฒนาใจ ให้รู้สึกตัวขึ้นมาให้ได้”พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (600513B)
mp3 พระธรรมเทศนาล่าสุด
วิดีโอพระธรรมเทศนา
“หลักของการปฏิบัติที่จะให้เกิดสติปัญญาแท้ๆ เกิดมรรคเกิดผลได้ มีไม่มากหรอก จำหลักสั้นๆ ไว้นิดเดียว
ให้เรามีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางหลวงพ่อไปรวบรวมหลักของการทำวิปัสสนากรรมฐานนะ ย่อลงมาเหลือเท่านี้เอง ถ้าพูดให้ถูกๆ ก็มีสติรู้รูป รู้นาม ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง รูปธรรมนามธรรมนั่นเอง เรียนรู้รูปธรรมนามธรรมที่ประกอบกันเป็นตัวเรา ไม่ต้องไปดูกายคนอื่นนะ ดูอยู่ในรูปของตัวเอง ดูอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ไม่ต้องไปดูที่อื่นหรอก”
ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
จากซีดีแสดงธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๗ ไฟล์ 531010A
จากซีดีแสดงธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๗ ไฟล์ 531010A
ธรรมบรรยายและฆราวาสธรรมโดยผู้ช่วยสอนของหลวงพ่อ
“ธรรมะของพระพุทธเจ้างดงามในเบื้องต้น งดงามในท่ามกลาง งดงามในที่สุด ไพเราะจับอกจับใจ ยิ่งเราศึกษาปฏิบัติจะพบว่า ความทุกข์กระเด็นหายไปจากใจเราอย่างอัศจรรย์ที่สุดเลยท่านสอนให้เราช่วยตัวเอง ไม่ต้องร้องขอให้ใครมาช่วย ไม่ได้สอนให้พึ่งพาผู้อื่นสิ่งอื่น ท่านให้เรามีสรณะคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แต่ที่พึ่งไม่ใช่แปลว่าท่านจะมาช่วย เราให้พ้นทุกข์ แต่ท่านเป็นแบบอย่างของผู้พ้นทุกข์
ท่านสอนทางพ้นทุกข์ที่ท่านเดินมาแล้ว ท่านทําได้แค่นั้นเอง ที่เหลือเราต้องทํา ต้องปฏิบัติเอาเอง
ทางที่ท่านสอนนั้นชัดเจน ไม่มีอะไรที่คลุมเครือ ไม่มีอะไรที่ จะต้องสงสัยเลย ขอให้ลงมือทําให้ถูกเท่านั้นเอง ซึ่งมีสองอย่าง อย่างแรกทําให้ถูกทาง อย่างที่สองทําให้สมควรกับธรรม ไม่ใช่ทํา นิดๆ หน่อยๆ หลายคนใจร้อน สะสมกิเลสมานับเวลาไม่ถ้วน พอมาภาวนา ๓ เดือน อยากบรรลุธรรมแล้ว
ธรรมะนั้นต้องปฏิบัติให้ถูกทาง เมื่อถูกแล้วก็ต้องขยัน ทำบ้างเล่นบ้างมันก็ได้แต่ธรรมะถูๆ ไถๆ ไปวันหนึ่งๆ ถ้าอยากฝึกจนจิตใจเราเข้าถึงฝั่ง พ้นทุกข์ แล้วไม่ต้องตะเกียกตะกายต่อไป จะต้องสู้ตาย มันไม่เหลือวิสัยที่คนธรรมดาๆ อย่างพวกเราจะทําได้ มันเหลือวิสัยเฉพาะคนที่ไม่รู้ทาง ดิ้นรนแทบตายเหนื่อยแทบตายก็ ได้แค่นั้นแหละ”
หนังสืออริยสัจเพื่อความพ้นทุกข์ เรื่อง “มรรค คือ ทางสายเดียวเพื่อความพ้นทุกข์”
จากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แผ่นที่ ๔๓ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๕ (550107)
จากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แผ่นที่ ๔๓ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๕ (550107)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น