มรรค)ท่านเรียกว่า ดวงตาเห็นธรรม ในอุปาลีโอวาทสูตร และทีฆนขสูตร.
ผลทั้งสามท่านเรียกว่า ดวงตาเห็นธรรม ในพรหมายุสูตร. ในสูตรนี้
มรรค ๔ ผล ๔ พึงทราบว่าเป็น ดวงตาเห็นธรรม. ก็แหละ ในบรรดา
เทวดาเหล่านั้น เทวดาบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน . บางพวกเป็นพระ
สกทาคามี บางพวกก็เป็นอนาคามี บางพวกก็เป็นพระขีณาสพ. และก็
การกำหนดด้วยอำนาจนับจำนวนเทวดาเหล่านั้นว่าเท่านั้น เท่านี้ไม่
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ความคิดเห็น 1 รายการ
จัดเรียงตาม
อยู่นอกกรอบคำสอนของพระพุทธเจ้าไปแล้ว *
.. ... .. ... .. ... .. ... ..
เรารู้ทุกข์ให้มากนะ
รู้กายรู้ใจให้มากนะ รู้อย่างที่เค้าเป็น
วันหนึ่งก็จะละสมุทัย แจ้งนิโรธ เกิดอริยมรรคขึ้นมา
เป็นของเค้าเอง
ต้องสู้นะอย่าท้อถอย
ตั้งใจไว้เลยว่าชีวิตนี้ต้องดีขึ้น
เรื่องอะไรจะต้องเลวลง เรื่องอะไรจะเสมอตัว
มีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะปราณีตลึกซึ้งถึงขนาดนี้
โอกาสที่จะได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้า
หายากนะ ยากมากเลย
วันเวลาที่มีพระพุทธเจ้านะ สั้นนิดเดียว
วันเวลาที่ไม่มีธรรมะแท้ๆนะ ยาวนาน
นานๆ พระพุทธเจ้าจะเกิดขึ้นองค์หนึ่ง
เกิดขึ้นองค์หนึ่งแล้วเนี่ย ศาสนาตั้งอยู่ไม่นาน
เพราะศาสนาพุทธเนี่ย
เป็นศาสนาฝืนโลกฝืนกิเลส
ไม่ใช่ตามใจกิเลส
ถ้าตามใจกิเลสก็อยู่นาน
ฝืนโลกฝืนกิเลสสู้โลกสู้กิเลสไม่ได้แล้ว
คนใจมันท้อถอยนะธรรมะก็หายไป
ทิ้งธรรมะเอากิเลสแทน
อย่างธรรมะง่ายๆ
ทำสมาธิแล้วมีความสุขเนี่ย
ไม่มีพระพุทธเจ้าเค้าก็ทำกัน
เพราะว่ามันตามใจกิเลส ทำแล้วมีความสุข
หรือไหว้พระเจ้าไหว้เทวดา ให้เทวดาให้พระเจ้าช่วย
อย่างนี้มันตามกิเลสนะ
เราไม่ค่อยชอบช่วยตัวเองแต่ชอบให้คนอื่นช่วยนะ
ให้คนอื่นช่วยมันสบายดีตามใจกิเลสแล้ว
ไม่คิดจะมีวิริยะอุตสาหะอะไรที่ดีเลย
ธรรมะแบบนี้เค้าอยู่นาน
ธรรมะช่วยตัวเองอยู่ยาก
ธรรมะที่ต้องใช้สติใช้สมาธิใช้ปัญญาอยู่ยากมากเลย
งั้นเมื่อเราได้ยินได้ฟังแล้ว อย่าเสียโอกาสนะ
รีบภาวนา
ไม่งั้นวันข้างหน้านะไปเกิดต่อไป ไม่มีธรระจะลำบาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น