เราเป็นเด็กหลงทาง เด็กบางคนหลงทางมานาน จนไม่รู้ว่าตัวเองมีบ้านอยู่ พวกเรานี่คือเด็กที่หลงทางมานาน เราไม่รู้ว่าเรามีบ้านที่แท้จริง เราก็ไม่คิดที่จะกลับ นี้ พระพุทธเจ้าเมตตากรุณา สูงนะ ท่านอุตส่าประกาศธรรมะออกมา ลำบากขันท์มากเลยนะ ในการประกาศธรรมะ คล้าย คล้าย สอนวัว สอนควาย ให้ขึ้นต้นไม้นะ ไม่ใช่ง่ายๆนะ สอนให้คนละกิเลส ดีไม่ดีมันก็แว้งเอานะ มันโกรธเอา ท่านอุตส่าทำ ท่านก็ชี้ทางให้เรา พอเราเริ่มเดินไป เดินไป ถึงจุดที่เรารู้ความจริงแล้วว่าตัวเราไม่มี รูปธรรม นามธรรม มีอยู่ แต่ไม่มีเจ้าของ ไม่ใช่ตัวเรา การกระทำ นะ มีอยู่แต่ไม่มีผู้กระทำ ใจมันอย่างนี้ มันรู้จักความจริงของธรรมะละ มันล้างความเห็นผิดว่ามีตัวมีตน ล้างความเห็นผิดในเรื่องวิธีปฏิบัติ ไม่งมงาย หมดความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย ใจได้พระโสดา เป็นพระโสดาบัน คล้ายเด็กหลงทาง ที่รู้แล้วว่าบ้านอยู่ที่ไหน แต่ยังกลับไม่ถึงบ้าน เรารู้นะว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน รู้แล้วว่าพ่อแม่เราคือใคร รู้ว่าพี่น้องเรามี คือบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลาย แต่ว่าเรายังกลับไม่ถึงบ้าน เราก็จะเกิดความพากเพียรนะมุ่งมั่น ศรัทธาของเราคราวนี้จะแน่นแฟ้นนะ ไม่คลอนแคลน ละ เราก็ขยันภาวนา ไปเรื่อย บางคนก็ใช้เวลานานหน่อย นะอินทรีย์ไม่แก่กล้าใช้เวลา 7 ชาติ 7 ชาติสั้นนิดเดียวนะ เราเวียนตายเวียนเกิดนับชาติไม่ถ้วน บางคนก็สองสามชาติ บางคนก็ชาติเดียว ภาวนาไปเรื่อย เรื่อย สุดท้ายมันก็ถึงบ้าน ถึงบ้านแล้วโฮ้ย หาบ้านแทบตาย บ้านอยู่ที่นี่เอง หาซะรอบจักรวาล อยู่ที่จิตที่ใจที่บริสุทธิ์ขึ้นมานี่เอง จะพบพระพุทธเจ้าตัวจริงนะ เราจะพบว่าพระพุทธเจ้ามีจริงจริง แต่ว่าไม่ใช่เป็นพุทธเจ้าที่ไปนั่งเข้าแถว นั่งสมาธิอะไรอย่างนั้นนะ หรือบางสํานักก็นั่งเก้าอี้ พุทธเจ้านั่ง บางสำนักก็นั่งสมาธิ กระดุกกระดิกไม่ได้ด้วย เหมือนรูปปั้น ไม่ใช่หรอก อะไรที่ยังเป็นรูปเป็นนามอยู่ไม่ใช่นิพพานนะ เป็นรูปเป็นนามไม่ใช่นิพพาน นิพพานเป็นสภาวะที่สิ้นตัณหา สิ้นทุกข์สิ้นขันท์ แต่ว่ามีไหมสภาวะนั้น มี ก็สภาวะที่สิ้นทุกข์สิ้นขันท์สิ้นตัญหา นั้นแหละ นะ เวลาที่ตายธาตุขันท์นี้แตก พลังงานที่มีอยู่ทิ้งไว้ในโลกนะ ส่วนอมตะธาตุ อมตะธรรมรวมเข้ากับพระนิพพานไป พระนิพพานไม่เพิ่มขึ้นไม่ลดลง
เทศเยอะไปละ พวกเรา เริ่ม ตา แป๊ว แป๊ว แล้ว ยากไป ฟังไว้ก่อนนะ แล้วก็ขยันภาวนา ทำให้ถูก สิ่งที่ผิดมี 2 อันเองไม่ตึงไป ก็หย่อนไป ตึงไปก็เพราะโลภ หย่อนไปเพราะขี้เกียจ เพราะหลงโลก ตึงไปก็เพราะโลภมาก อยากดี อยากพ้นทุกข์ก็แค่นี้แหละ ถ้ารู้เท่าทันจิตใจ ตอนนี้ตึงไป รู้ทัน ตอนนี้หย่อนไป รู้ทัน มันก็เข้าทางสายกลาง เมื่อไหร่ไม่ผิดเมื่อนั้นก็ถูก ถ้าถูกแล้วมันก็เดินของมันไปเรื่อยๆ นะ แต่ละวัน บางช่วงก็เจริญบางช่วงก็เสื่อม แต่ภาพรวมแล้ว เราจะเติบโตขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งมันมีกำลัง ข้ามภพไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น