เตาไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีในปี 2017
เตาไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีในปี 2017
กรกฎาคม 1, 2017
ปัจจุบันการทำอาหารในครัวนั้นมีความวุ่นวายน้อยลงไปมากเพราะว่าเรามีเทคโนโลยีเตาไฟฟ้า หลากหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกซื้อมาใช้ในทั้งครัวเล็กครัวใหญ่กันมากมาย เนื่องจากว่าเตาไฟฟ้ามีประโยชน์และมีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น สามารถเคลื่อนย้ายสะดวกได้หากต้องการทำอาหารบริเวณนอกบ้าน เช่นทำสุกี้กิน (คงไม่มีใครอยากกลิ้งถังแก็สออกไปหน้าบ้านเพียงเพื่อปาร์ตี้สุกี้เท่านั้น ใช่มั้ย?) และอีกอย่าง เตาไฟฟ้าประหยัดพลังงานกว่าเตาแก็สมาก ช่วยให้เราทำอาหารได้ง่าย ทำให้ครัวสะอาด ไม่เลอะเทอะ ทำให้ครัวไม่ร้อน แถมยังปลอดภัยกว่าการใช้แก๊สกว่ามากเพราะว่าเตาไฟฟ้านั้นจะมีระบบตัดไฟเพื่อความปลอดภัย และสำหรับแม่ครัวพ่อครัวคนไหนที่ไม่ชอบอากาศร้อนในห้องครัวหรือทำให้หน้าเยิ้มเวลาทำอาหารแล้วละก็ เราก็แนะนำให้ใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าดีกว่าเพราะอย่างที่บอกไปว่า เตาชนิดนี้ไม่มีไอความร้อนออกมาเหมือนการใช้แก๊สหรือเตาไฟฟ้าแบบติดตั้งตายตัวตามห้องครัวต่าง ๆ เลย
และสำหรับใครที่กำลังมองหาเตาไฟฟ้าอยู่แล้วล่ะก็ ลองมาดูทางนี้เลยเพราะวันนี้เราจะมารีวิวเตา ไฟฟ้าทั้งที่เป็นแบบเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาไฟฟ้าอินฟราเรดซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่งมีมาสู่ตลาดกัน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า “เตาแม่เหล็กไฟฟ้า” กับ “เตาไฟฟ้าอินฟาเรด” นั้นต่างกันยังไงบ้าง
เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
เตาชนิดนี้จะใช้แม่เหล็กไฟฟ้าในการให้ความร้อนกับอาหารด้วยความร้อนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้านั่นเอง ข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็คือสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างมากเนื่องจากไม่มีการสูญเสียพลังงานในระหว่างการทำอาหารในบริเวณผิวหน้าของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ากับหม้อหรือกะทะที่เราวางบนเตา ทำให้เราสามารถทำอาหารได้อย่างรวดเร็วและในเวลาที่เราสามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้านี้มีก็คือตัวเตาจะไม่เกิดความร้อนขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้อย่างมากแต่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีข้อเสียอยู่บ้าง นั่นคือ สามารถใช้ได้เฉพาะกับวัสดุที่ใช้งานได้กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้นโดยไม่สามารถใช้ได้กับวัสดุที่เป็นอลูมิเนียม แก้วทนความร้อน หรือเซรามิก
เตาไฟฟ้าอินฟาเรด
ตอนนี้เราลองมาดูเตาไฟฟ้าอินฟาเรดกันบ้างว่าแตกต่างจากเตาไฟฟ้าแม่เหล็กยังไง เตาไฟฟ้าอินฟราเรดนี้ทำมาจากหลอดไฟฮาโลเจนที่ติดตั้งในแผ่นเหล็กกันสนิม โดยที่หลอดไฟดังกล่าวจะมีขดลวดวางอยู่รอบด้านเพื่อให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ และส่งผ่านความร้อนไปยังหม้อปรุงอาหารของเราโดยตรงผ่านทางรังสีอินฟาเรด เตาไฟฟ้าอินฟาเรดนี้ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับเตาไฟฟ้าขดลวดธรรมดาและปัจจุบันมีการคิดค้นเพื่อพัฒนาเตาชนิดนี้ให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เนื่องจากถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญสามารถใช้งานได้กับภาชนะที่ทำจากวัสดุใดก็ได้ ไม่ได้จำกัดเหมือนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แต่เตาไฟฟ้าอินฟาเรดนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกัน นั่นก็คือประสิทธิภาพในการให้ความร้อนนั้นจะน้อยกว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
เรียกได้ว่าทั้งสองชนิดนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันเพื่อน ๆ นักปรุงอาหารจะเลือกแบบไหนก็ลองดูว่าเหมาะกับการใช้งานของตัวเองอย่างไรบ้าง ตอนนี้เราลองมาดูกันว่ามีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาไฟฟ้า อินฟาเรดยี่ห้อไหนบ้างที่กำลังเป็นที่นิยมใช้งานในครัวไทยกันบ้าง พร้อมแล้วลองไปดูกันเลย!
1. Electrolux ETD29KC
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าหลายระดับความร้อน หน้าจอ LED พร้อมระบบป้องกันเพื่อความปลอดภัย
ขนาด (เซนติเมตร): 65 x 28 x 37 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 3.5 | กำลังไฟฟ้า: 2,000 วัตต์ | รับประกัน: มี
ขึ้นชื่อว่าเป็นเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของตระกูล Electrolux แล้วเราก็ พ่อครัวแม่ครัวก็หายห่วงถึงคุณภาพของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ได้เลย เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของ Electrolux ขนาด2,000 วัตต์รุ่นนี้สามารถปรับความร้อนได้ถึง 8 ระดับ โดยหน้าจอควบคุมการทำงานเป็นระบบสัมผัสที่มีหน้าจอ LED ทำให้สามารถมองเห็นค่าต่าง ๆ ของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ขึ้นชื่อว่าร้อนเร็วทันใจมาก และสามารถตั้งเวลาทำอาหารได้สูงสุดถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนอีกฟังก์ชันที่เหมาะสำหรับครอบครัว ที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษสำหรับการปรุงอาหารก็ขอแนะนำเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้เลยเพราะว่ามีระบบตรวจจับหม้อหรือที่เรียกว่า Pot Detector คอยตรวจว่ามีภาชนะบนเตาหรือไม่ หากไม่มีตัวเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะดับลงโดยอัตโนมัติ และเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของตระกูล Electrolux รุ่นนี้ยังมีระบบป้องกันเด็กที่เรียกว่า Child Lock เพื่อไม่ให้มีการเปิดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูก ๆ จะไม่เปิดเตาไฟฟ้าเล่น
ส่วนตัวเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเองผิวเตาและแผงควบคุมการทำงานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าทำจากกระจกเซรามิก ซึ่งทำให้ดูดีไซน์สวยงามและทำความสะอาดง่ายเนื่องจากกระจกเซรามิกนี้จะไม่ทำให้คราบอาหารหรือคราบไหม้ต่าง ๆ ติดแน่นที่ตัวกระจกพ่อครัวแม่ครัวทั้งหลายจึงเพียงแค่ใช้ฟองน้ำเช็ดบริเวณผิวหน้าเตา (เมื่อเตาเย็น) ก็สามารถกำจัดเศษสิ่งตกค้างหรือคราบอาหารออกได้อย่างรวดเร็ว ตัวเตาเองมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักไม่มากนัก เหมาะสำหรับครัวเล็กอย่างคอนโดมิเนียมหรือการพกพาออกไปกินสุกี้สนามหญ้าหน้าบ้าน
ข้อดี | ข้อเสีย |
ระบบ Child Lock | |
ปรับความร้อนได้ถึง 8 ระดับ | |
ทำความสะอาดง่าย |
2. AJ IN-001B
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าปรุงอาหาร 8 ฟังก์ชัน น้ำหนักเบากำลังไฟฟ้า 2,000 วัตต์
ขนาด (เซนติเมตร): 39 x 33 x 14 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 2.0 | กำลังไฟฟ้า: 2,000 วัตต์ | รับประกัน: มี
ทีนี้เรามาถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้าราคาเบา ๆ แต่ฟังก์ชันไม่แพ้รุ่นที่ราคาสูงกันบ้าง โดยที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าในตระกูล AJ รุ่นนี้ให้กำลังไฟฟ้าเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่มีกำลังถึง 2,000 วัตต์ และมีฟังก์ชันการใช้งานถึง 8 ฟังก์ชันด้วยกัน โดยที่เตามีน้ำหนักเบามากเพียงแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ตัวผิวหน้าของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ยังทำจากเซรามิกทำให้มีความแข็งแรงให้ความร้อนรวดเร็ว และทำความสะอาดง่ายมาก ๆ
และเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ยังมีระบบตัดไฟโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยเมื่อไม่มีภาชนะอยู่บนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ปุ่มกดของเตารุ่นนี้ยังเป็นแบบดั้งเดิมโดยไม่ใช่ปุ่มกดแบบสัมผัสเหมือนของ Electrolux จึงทำให้ตัวเตาหรือดีไซน์โดยรวมยังเป็นแบบเก่าไม่ออกแนวอนาคตมากเท่าไหร่ แต่ถ้าเพื่อน ๆพ่อครัวแม่ครัวไม่ได้คิดอะไรมากสำหรับจุดนี้ด้วยราคาเบาขนาดนี้แถมคุณภาพฟังก์ชัน รวมถึงวัสดุและกำลังไฟไม่แพ้รุ่นอื่นแล้วล่ะก็ เราก็แนะนำให้ใช้รุ่นนี้เพราะว่าคุ้มค่าเพราะสมควร
ข้อดี | ข้อเสีย |
8 ฟังก์ชันการปรุงอาหาร | ดีไซน์ไม่ทันสมัย |
น้ำหนักเบา | |
3. AJ IN-001F
เตาไฟฟ้าอินฟราเรดพร้อมปุ่มทำอาหารหลากหลาย ใช้งานได้กับภาชนะเกือบทุกชนิด
ขนาด (เซนติเมตร): 42.5 x 28.5 x 6.0 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 2.6 | กำลังไฟฟ้า: 2,200 วัตต์ | รับประกัน: มี
มาดูเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของตระกูล AJ การไปแล้วตอนนี้เรามาดูเตาไฟฟ้าอินฟาเรดกันบ้าง อย่างที่เกริ่นกันไปแล้วว่าเตาไฟฟ้าอินฟาเรดนั้นมีข้อดีหลายอย่างโดยเฉพาะวัสดุของภาชนะที่สามารถใช้ได้กับ บางชนิดในนี้นั้นไม่จำกัดเลยไม่ว่าจะเป็นแก้วหรือเซรามิกก็ตาม โดยที่ต่ออินฟาเรดนั้นถือว่าเป็นเตาที่พัฒนาสำหรับอนาคตเพราะว่าช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อเราปรุงอาหารและช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในครัวอีกด้วยจึงทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
และเช่นเดียวกันไฟฟ้าอินฟาเรดของ AJ รุ่นนี้ก็ไม่มีการใช้รังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเลยเนื่องจากใช้แสงอินฟราเรดในการให้ความร้อน โดยสามารถทำอาหารได้หลากหลายและใช้งานได้กับภาชนะทุกชนิด นอกจากนี้ตัวเตาไฟฟ้าอินฟาเรดรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชันตรวจจับไฟโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟตกหรือไฟเกินและเมื่อไม่มีภาชนะตั้งบนเตาไฟ เตาไฟฟ้าอินฟาเรดรุ่นนี้ก็จะตัดไฟโดยอัตโนมัติ และยังมีปุ่มทำอาหารอัตโนมัติโดยแบ่งเป็น นึ่ง ย่าง หุงต้ม ผัด ได้ง่าย ๆ ถือว่าสะดวกมากสำหรับแม่ครัวพ่อครัวที่อาจเกิด “ไอเดียตัน” ขึ้นมาในการทำอาหารในแต่ละวัน
ตัวผิวหน้าของเก่าทำจากวัสดุพื้นผิวคริสตัลที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ เนื่องจากตัวเตาไม่ส่งความร้อนออกมาภายนอกในบริเวณโดยรอบ เตาชนิดนี้จึงเหมาะกับห้องพักขนาดเล็กหรือคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ในการปรุงอาหารจำกัด โดยส่วนตัวแล้วเราชอบเตาไฟฟ้าอินฟราเรดรุ่นนี้เพราะมีดีไซน์สวยแถมผิวหน้าเป็นสีดำออกแนวคลาสสิคตัดกับปุ่มที่เป็นสีเหลือง ซึ่งปุ่มก็เป็นแบบสัมผัสด้วยไม่ดูเทอะทะเหมือนรุ่นก่อน แถมยังน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก และที่สำคัญขนาดกะทัดรัด ทำให้ไม่กินพื้นที่มากในห้องครัวจะวางตรงไหนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังชั่นเพื่อความปลอดภัยในการใช้อีกด้วย
ข้อดี | ข้อเสีย |
พื้นผิวคริสตัล | |
ใช้ได้กับภาชนะหลากหลายวัสดุ | |
ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม |
4. SKG SK-2918
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยม ทนทาน ทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ขนาด (เซนติเมตร): 34 x 40.5 x 7 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 5 | กำลังไฟฟ้า: 1,800 วัตต์ | รับประกัน: มี
สำหรับอีกรุ่นที่นำมารีวิวกันในวันนี้ก็คือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของตระกูล SKG ที่นอกจากจะมีคุณภาพดีแล้วยังมีความทนทานอีกด้วยโดยที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้มีความโดดเด่นเนื่องจากควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในการเลือกความร้อนและอุณหภูมิสำหรับการปรุงอาหารไม่ว่าจะเป็น การทอดผัดนึ่งหรือต้มก็ตาม สำหรับกำลังไฟสูงสุดของรุ่นนี้อาจจะไม่ถึงรุ่นอื่นโดยกำลังไฟอยู่ที่ 1,800 วัตต์ ความโดดเด่นของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือผิวหน้าสำหรับวางหม้อของเตานั้น ทำมาจากวัสดุที่มีความทนทานและหนาถึง 10 มิลลิเมตร ทำให้สามารถรับแรงกดได้ถึง 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว
และยิ่งถูกใจมากขึ้นสำหรับครอบครัวแม่ครัวคนไทยที่อาจไม่คล่องภาษาอังกฤษมากเนื่องจากเตา แม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้มีปุ่มกดเมนูที่เป็นภาษาไทย ทำให้สามารถอ่านและเห็นปุ่มกนและฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปุ่มทำสุกี้ ปุ่มผัด ปุ่มต้ม หรือแม้กระทั่งตรงปุ่มทำโจ๊กสำหรับอาหารเช้าก็ตาม เรียกได้ว่าถูกใจคุณพ่อคุณแม่ที่อาจจะทั้งไม่ชอบภาษาอังกฤษและสายตาไม่ค่อยดีด้วย
และแถมท้ายสำหรับส่วนประกอบที่มากับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือชุดภาชนะประกอบอาหารครบถ้วนกระบวนความ ทั้งต้ม ทอด ผัด ย่าง และนึ่งเลยทีเดียว ทำให้เมื่อเราหาซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเรา ไม่ต้องหาซื้อภาชนะที่ต้องมาใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มเติม เนื่องจากอย่างที่บอกไปแล้วว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นจะใช้ได้กับเฉพาะภาชนะที่ใช้ได้กับแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้นไม่สามารถใช้ได้กับภาชนะที่เป็นเซรามิกหรืออะลูมิเนียม
ข้อดี | ข้อเสีย |
ผิวหน้าเตาหนาถึง 10 มิลลิเมตร | น้ำหนักมาก |
ทนทานและรับน้ำหนักได้สูง | กำลังไฟเพียง 1,800 วัตต์ |
ไม่ทำให้อาหารนอกภาชนะสุก |
5. Clarte FCC112H
เตาเซรามิกไฟฟ้าปิ้งย่างคุณภาพสูง ร้อนเร็วทันใจ ตั้งเวลาปรุงอาหารได้นาน
ขนาด (เซนติเมตร): 29.8 x 42 x 6 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 2.5 | กำลังไฟฟ้า: 2,200 วัตต์ | รับประกัน: มี
คราวนี้เรามาถึงเตาไฟฟ้าที่เป็นเตาเซรามิกของตระกูล Clarte กันบ้าง โดยเตารุ่นนี้จะมาพร้อมกับตะแกรงเซ็ทปิ้งย่างเกาหลี เหมาะสำหรับใครที่ชอบการปิ้งย่างในแบบญี่ปุ่นหรือเกาหลี โดยเตาเซรามิกไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีประเทศเยอรมันในการผลิต ทำให้สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพและการให้ความร้อนที่สม่ำเสมอ โดยข้อดีของเตาเซรามิกไฟฟ้ารุ่นนี้มีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสามารถตั้งเวลาทำอาหารได้นานสุดถึง 4 ชั่วโมง และสามารถใช้ได้กับภาชนะหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสแตนเลส อะลูมิเนียม เซรามิก และแก้วที่ทนความร้อน ทำให้ไม่รู้สึกแตกต่างจากการใช้เตาแก๊สธรรมดาเลย
แต่ที่ดีกว่าเตาแก๊สขึ้นมามากก็คือเราสามารถควบคุมอุณหภูมิและเวลาในการทำอาหารของเราได้อย่างสบาย ๆ พร้อมทั้งประหยัดพลังงานอย่างมาก ผิวหน้าของเตาไฟฟ้ารุ่นนี้ทำจากเซรามิกและทนความร้อนสูง โดยที่สามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 800 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยเตารุ่นนี้จะตัดไฟโดยอัตโนมัติหากความร้อนสูงเกิน 600 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงกว่าการทำอาหารปกติของเรามาก นอกจากนี้ระบบแสดงการทำงานก็เป็นแบบดิจิตอล ส่วนตัวเตาเองก็มีซีลป้องกันน้ำซึมเข้าไปในตัวเตาได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้กำจัดปัญหาจัดแบบที่เกิดขึ้นกับเตาไฟฟ้าธรรมดาที่มักมีน้ำซึมเข้าไปและทำให้เตาร้อนช้าหรือร้อนน้อยกว่าปกติไปได้
ข้อดี | ข้อเสีย |
ปิ้งย่างได้ | |
ให้ความร้อนเร็ว | |
ตั้งเวลาทำอาหารได้ถึง 4 ชั่วโมง |
6. Imarflex IF-404
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าน้ำหนักเบา ทนทาน ใช้งานง่าย มีปลอดภัยสูง
ขนาด (เซนติเมตร): 32 x 18 x 35 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 2 | กำลังไฟฟ้า: 2,000 วัตต์ | รับประกัน: มี
มาถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้ายี่ห้อ Imarflex ที่มีชื่อเสียงเรื่องการทำเตาไฟฟ้าระดับโลกกันบ้าง โดยเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้มีดีไซน์ที่สวยงามและออกแนวอนาคต เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวขนาดเล็กกะทัดรัดเนื่องจากมีน้ำหนักเบาเพียง 2 กิโลกรัม ส่วนฟังก์ชันอัตโนมัติในการเลือกทำอาหารก็มีถึง 8 ฟังก์ชันด้วยกัน ทำให้เรื่องการทำอาหารกลายเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและไม่วุ่นวายอีกต่อไป
เตาแม่เหล็กไฟฟ้า Imarflex นี้ขึ้นชื่อว่ามีทั้งความแข็งแรงทนทานและความทันสมัยในตัว รวมถึงสามารถใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน และสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย กำลังไฟของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ก็เหมือนกับเตารุ่นอื่น ๆ ที่มีกำลังไฟฟ้า 2,000 วัตต์ โดยหน้าจอแสดงผลจะเป็นแบบ LED ทำให้เห็นค่าต่าง ๆ ได้ชัดเจน
และแน่นอนว่าด้วยความเป็น Imarflex แล้ว เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วงสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้เพราะว่ามีฟังก์ชันดูแลความปลอดภัยและป้องกันการเปิดเตาโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย ส่วนแผ่นความร้อนที่ใช้ในเตาแม่เหล็กไฟฟ้านี้ก็ความร้อนได้เร็วทันใจด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมของ Imarflex แต่สิ่งที่เราชอบมากที่สุดสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือฟังก์ชั่นในการทำอาหารอัตโนมัติเพราะเราเป็นคนที่บ้างครั้งก็หมดมุขในการทำอาหารไปดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น
ข้อดี | ข้อเสีย |
ความปลอดภัยสูง | |
ทนทาน | |
น้ำหนักเบา |
7. Philips HD4911
เตาแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังไฟสูง ดีไซน์สวยทันสมัย ทำอาหารได้รวดเร็วทันใจ
ขนาด (เซนติเมตร): 28 x 6.5 x 35 | น้ำหนัก (กิโลกรัม): 4 | กำลังไฟฟ้า: 2,100 วัตต์ | รับประกัน: ไม่มี
มาถึงเตารุ่นสุดท้ายที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ นั่นก็คืออยู่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของ Philips กำลังไฟฟ้าสูงที่มาพร้อมกันเมนูทำอาหารอัตโนมัติถึง 5 เมนูและสามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ โดยมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 2,100 วัตต์ รับประกันได้ว่าพ่อครัวแม่ครัวที่รักในการทำอาหารจะหลงรักเตาไฟฟ้ารุ่นนี้ไปโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากมีดีไซน์ที่ทันสมัยและสวยงามมาก แถมปุ่มต่าง ๆ ยังเป็นระบบสัมผัสทำให้ไม่เกะกะเวลาทำอาหาร พร้อมทำหน้าจอที่แสดงอุณหภูมิแต่ละช่วงการทำอาหารด้วย
นอกจากข้อดีที่กล่าวไป เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ยังสามารถลดเวลาในการทำอาหารลงได้ถึง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับการทำอาหารด้วยเตาแก๊สธรรมดาเนื่องจากมีระบบให้ความร้อนที่เป็นนวัตกรรมและผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการในศูนย์ทดสอบฮ่องกง เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ความร้อนเร็วและทำอาหารได้เร็วขึ้น เหมาะอย่างมากสำหรับชีวิตในเมืองที่มีความเร่งรีบอย่างกรุงเทพฯ ที่หลายครอบครัวต้องวิ่งแข่งกับเวลานอกจากนี้พ่อครัวแม่ครัวทั้งหลายยังสามารถตั้งเวลาในการเตรียมอาหารสำหรับเตาไฟฟ้าเรื่องนี้ได้ล่วงหน้าถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียวโดยสามารถปรุงอาหารได้ต่อเนื่อง 120 นาที แต่เตารุ่นนี้อาจจะมีข้อเสียตรงที่ว่ามีน้ำหนักมากถึง 4 กิโลกรัมแต่ถ้าเทียบกับกำลังไฟและฟังก์ชันอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นมามากกว่าหลาย ๆ รุ่นแล้วเราก็เชียร์เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้ด้วยเหมือนกัน
ข้อดี | ข้อเสีย |
กำลังไฟสูง | น้ำหนักมาก |
ทำอาหารรวดเร็ว | |
ตั้งเวลาทำอาหารล่วงหน้าได้ |
เป็นยังไงบ้าง? เรียกได้ว่าทั้งเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาไฟฟ้าอินฟาเรดออกแบบมาเพื่อการทำอาหารงานในครัวที่ทั้งสะดวกสบายประหยัดพลังงานแถมยังปลอดภัย ลดเวลาในการทำความสะอาดเตา ที่มีคราบเลอะติดกับแผ่นสแตนเลสที่ต้องใช้เวลาและใช้สารเคมีในการทำความสะอาดกันวุ่นวายได้หายห่วง ทุกวันนี้ด้วยเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาไฟฟ้าอินฟาเรดทำให้พ่อครัวแม่ครัวรุ่นใหม่ ไม่ต้องหัวเสียกับเรื่องการดูแลความสะอาดในครัว เรื่องหน้าเยิ้ม เหงื่อตกเวลาทำอาหาร และเรื่องของเตาที่มีปัญหาอีกต่อไป ดีสุด ๆไปเลยใช่ไหมล่ะ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น