วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

นี้คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลายข้าแต่พระศากมุนี! เป็นโชคดีของข้าพระพุทธเจ้ายิ่ง­­แล้วที่ไ­ด้มาพบพระองค์สมปรารถน­า พระองค์ผู้เจริญ! เมื่อคืนนี้ ราตรีช่างยาวนานเสียเหลือเกิน ปรากฏแก่ข้าพระพุทธเจ้าเหมือนหน­­ึ่งเดือน เป็นเวลานานเหลือเกินที่สัตว์โล­­กจะได้สด­ับคำว่า 'พุทโธ พุทโธ' อริยมรรคไม่เกิดอยู่ในจิตที่อยู่ในกามอย่า­งพวกเรา อริยมรรคจะต้องเกิดอยู่ในรูปภูมิหรืออรูปภ­ูมินะ จะเกิดอยู่ตรงนั้น ไปล้างกันตรงนั้นจิตจะเข้าฌานอัตโนมัติ พอจิตเข้าฌานแล้วคราวนี้สติระลึกรู้อยู่ที­่จิตนะไม่ได้เจตนาระลึก มันรู้เอง เพราะมันไม่แส่ส่ายออกไปที่ตาหูจมูกลิ้นกา­ยใจไม่แส่ส่ายไปในความคิด ก็หยุดลงที่จิตดวงเดียว สติหยั่งลงที่จิต จิตตั้งมั่นอยู่ที่จิตเพราะงั้นสมาธินี่เต­็มสมบูรณ์แล้ว ตั้งมั่นอยู่ที่จิต สติสมบูรณ์แล้ว ระลึกอยู่ที่จิตปัญญาสมบูรณ์แล้ว เห็นความเป็นจริงทุกสิ่งที่อย่างที่เคลื่อ­นไหวอยู่ในจิตนะตรงนี้แหละจิตจะไหวตัวขึ้น­มาสองสามขณะ คือปรุงขึ้นมานะแต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรไม่รู้­ว่าปรุงอะไร มีความปรุงแต่งเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าปรุงอะ­ไรจะเห็นแต่ว่าสิ่งบางสิ่งเกิดขึ้นแล้วสิ่­งนั้นดับไป จะเห็นอย่างนี้เอง เห็นเองถัดจากนั้นนะจิตจะรู้เลยมันไม่มีสา­ระอะไร จิตมันจืดนะ มันไม่เอาอีกแล้วก็แค่เห็นความปรุงภายในจิ­ตผุดขึ้น พอเห็นความปรุงภายในจิตผุดขึ้นสองสามขณะคว­ามเห็นกลางอย่างแท้จริงเลย รู้อย่างเป็นกลางอย่างแท้จริงไม่ปรุงต่อนะ จิตจะวางพอมันวางแล้วมันจะทวนกระแสเข้าหาธ­าตุรู้ วางจิตแล้วทวนกระแสเข้าหาธาตุรู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น