วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระอริยะบุคคล พระอนาคามี.วิธีบรรพชาอุปสมบทแบบเอสาหัง กุลบุตรผู้มีศรัทธามุ่งอุปสมบท พึงรับผ้าไตรอุ้มประนมมือเข้าไปใน สังฆสันนิบาต วางผ้าไตรไว้ข้างตัวด้านซ้าย รับเครื่องสักการะถวายพระ อุปัชฌายะ แล้วกราบลงด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้งแล้วนั่งคุกเข้าอุ้มผ้าไตร ประนมมือเปล่งวาจา ถึงสรณะและขอบรรพชาด้วยคำมคธ หยุดตามจุดจุลภาค ว่า .........เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะ- วะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง .........ทุติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระ- ณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง .........ตะติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะวะโต,ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสังปะทัง .........อะหัง ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ .........ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายามิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ .........ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ .........ถ้าบวชเป็นสามเณร ยกคำว่า ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง ออกเสีย .........ในลำดับนั้น พระอุปัชฌายะรับเอาผ้าไตรจากผู้มุ่งบรรพชาวางไว้ตรง หน้าตัก แล้วกล่าวสอนถึงพระรัตนตรัยเป็นต้น และบอก ตะจะปัญจะกะกัม- มัฏฐาน ให้ว่าตามไปทีละบท โดยอนุโลมและปฏิโลม ดังนี้ .........เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ (อนุโลม) .........ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา (ปฏิโลม) .........ครั้นสอนแล้วพระอุปัชฌายะชังอังสะออกจากไตร สวมให้แล้ว สั่งให้ ออกไปครองไตรจีวรตามระเบียบ ครั้นเสร็จแล้วเข้าไปหาพระอาจารย์ รับ เครื่องสักการะถวายท่านแล้วกราบ ๓ หน นั่งคุกเข่า ประนมมือเปล่งวาจา ขอสรณะและศีลดังนี้ ........................อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ .........ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ .........ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ .........ลำดับนั้น พระอาจารย์กล่าวคำนมัสการนำให้ผู้มุ่งบรรพชาว่าตามไป ดังนี้ .........นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธสสะ ว่า ๓ หน .........แต่นั้นท่านจะสั่งด้วยคำว่า เอวัง วะเทหิ หรือ ยะมะหัง วะทามิ ตัง วะเทหิ พึงรับว่า อามะ ภันเต .........ครั้นแล้วท่านนำให้เปล่งวาจาว่าสรณคมน์ตามไปทีละพากย์ดังนี้ ..................พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ..................สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ..................ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ .........เมื่อจบแล้ว ท่านบอกว่า ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง พึงรับว่า อามะ ภันเต ลำดับนั้นพระอาจารย์จะบอกให้รู้ว่า การบรรพชาเป็น สามเณรสำเร็จด้วยสรณคมน์เพียงเท่านี้ ทีนั้นพึงสมาทานสิกขาบท ๑๐ ประการ ว่าตามท่านไปดังนี้ ..................ปาณาติปาตา เวระมะณี ..................อะทินนาทานา เวระมะณี ..................อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี ..................มุสาวาทา เวระมะณี ..................สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี ..................วิกาละโภชะนา เวระมะณี ..................นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวระมะณี ..................มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี ..................อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี ..................ชาตะรูปะระชะตะปะฏิคคะหะณา เวระมะณี ..................อิมานิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ ฯ (ว่า ๓ หน) .........ในลำดับนั้น สามเณรพึงรับบาตร อุ้มเข้าไปหาพระอุปัชฌายะใน สังฆสันนิบาตวางไว้ข้างตัวด้านซ้าย รับเครื่องสักการะถวายท่าน แล้วกราบ ๓ หน นั่งคุกเข่าประนมมือกล่าวคำขอนิสัย ว่าดังนี้ ...........................อะหัง ภันเต, นิสสะยัง ยาจามิ ..................ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, นิสสะยัง ยาจามิ ..................ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, นิสสะยัง ยาจามิ ..................อุปัชฌาโย เม ภันเต, โหหิ ว่า ๓ หน .........พระอุปัชฌายะกล่าวว่า โอปายิกัง, ปะฏิรูปัง, ปาสาทิเกนะ สัมปาเทหิ บทใดบทหนึ่งพึงรับว่า สาธุ ภันเต ทุกบทไป แต่นั้น สามเณรพึงกล่าวรับเป็นธุระให้ท่านว่าดังนี้ .........อัชชะตัคเคทานิ เถโร, มัยหัง ภาโร, อะหัมปิ เถรัสสะภาโร ...........................ว่า ๓ หน เสร็จแล้วกราบลง ๓ หน .........ลำดับนั้น พระอุปัชฌายะแนะนำสามเณรไปตามระเบียบแล้ว พระ อาจารย์ผู้เป็นกรรมวาจา เอาบาตรมีสายคล้องตัวผู้มุ่งอุปสมบท บอกบาตร และจีวร ผู้มุ่งอุปสมบทพึงรับว่า อามะ ภันเต ๔ หนดังนี้ คำบอกบาตรจีวร คำรับ คำบอกบาตรจีวร ๑. อะยันเต ปัตโต ๒. อะยัง สังฆาฏิ ๓. อะยัง อุตตะราสังโค ๔. อะยัง อันตะระวาสะโก.................. คำรับ อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต .........ต่อจากนั้นพระอาจารย์ท่านบอกให้ออกไปข้างนอกว่า คัจฉะ อะมุมหิ โอกาเส ติฏฐาหิ พึงถอยออกลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่ในที่ที่กำหนดไว้ พระอาจารย์ท่านแสดงสมมติตนเป็นผู้สอนซ้อม แล้วออกไปสวดถามอันตรา- ยิกกรรม พึงรับว่า นัตถิ ภันเต ๕ หน อามะ ภันเต ๘ หน ดังนี้ ...........ถาม ๑. กุฏฐัง ๒. คัณโฑ ๓. กิลาโส ๔. โสโส ๕. อะปะมาโร ๑. มะนุสโสสิ๊ ๒. ปริโสสิ๊ ๓. ภุชิสโสสิ๊ ๔. อะนะโณสิ๊ ๕. นะสิ๊ ราชะภะโฏ ๖. อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ ๗. ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ ๘. ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง....... ๑. กินนาโมสิ . ๒. โก นามะ เต อุปัชฌาโย .1 2 ตอบ นัตถิ ภันเต นัตถิ ภันเต นัตถิ ภันเต นัตถิ ภันเต นัตถิ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อามะ ภันเต อะหัง ภันเต........................ นามะ อุปัชฌาโย เม ภันเต อายัสมา............................. นามะ .........ถ้าตอบพร้อมกันให้เปลี่ยน เม เป็น โน ช่องที่...ไว้ พระอุปัชฌายะหรืออาจารย์ท่านจะตั้งชื่อของ อุปสัม- ปทาเปกขะ กรอกลงช่องให้ไว้ก่อนวันบวช และช่องที่ ... ไว้ในช่องชื่อของ พระอุปัชฌาย์ ก็เช่นเดียวกัน ให้กรอกตามชื่อของพระอุปัชฌายะ ซึ่งท่านจะ บอกและกรอกให้ไว้ก่อนวันบวช .........ครั้นสวดสอนซ้อมแล้ว ท่านกลับเข้ามาสวดขอเรียกอุปสัมปทาเปกขะ เข้ามา อุปสัมปทาเปกขะ พึงเข้ามาในสังฆสันนิบาต กราบลงตรงหน้า พระอุปัชฌายะ ๓ หน แล้วนั่งคุกเข่าประนมมือ เปล่งวาจาขออุปสมบท ว่าดังนี้ .........สังฆัมภันเต, อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุมปะตู มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปายทายะ .........ทุติยัมปิ ภันเต, สังฆัง อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปทายะ .........ตะติยัมปิ ภันเต, สังฆัง อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุมปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปาทายะ .........ถ้าว่าพร้อมกันให้เปลี่ยน ยาจามิ เป็น ยาจามะ เปลี่ยน มัง เป็น โน .........ในลำดับนั้น พระอุปัชฌายะกล่าวเผดียงสงฆ์แล้ว และพระอาจารย์ สวดสมมติตน ถามอันตรายิกธรรมอุปสัมปทาเปกขะ พึงรับว่า นัถติ ภันเต ๕ หน อามะ ภันเต ๘ หน ตอบชื่อตนและอุปัชฌายะรวม ๒ หนโดย นัยหนหลัง แต่นั้นนั่งฟังท่านสวดกรรมวาจาอุปสมบทไปจนจบ ครั้นจบ แล้วท่านเอายาตรออกจากตัง แล้วพึงกราบ ๓ หน นั่งพับเพียบประนมมือนั่ง พระอุปัชฌายะบอกอนุศาสน์ไปจนจบแล้วรับว่า อามะ ภันเต แล้วกราบ ๓ หน ถวายไทยทาน กรวดน้ำ เหมือนกล่าวแล้วในแบบ อุกาสะ จบวิธีอุปสมบทแบบเอสาหัง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น