วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557
คำว่าเราจะทดลองหรือฝึกอบรมเจริญ สติปัฏฐานเพื่อทดสอบหาความจริงดู ไม่น่าจะมีในหมู่ชาวพุทธเลย เพราะสติปัฏฐานสี่พระองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้อย่างเด็ดขาดแล้วว่า ผู้ใดมาเจริญซึ่งสติปัฏฐานสี่ ทำให้มากเจริญให้ยิ่งจนชำนาญแล้ว อย่างช้าเจ็ดปีอย่างเร็วเจ็ดวันต้องได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ถ้าไม่ถึงพระอรหันต์ก็ต้องได้พระอนาคามี ฉะนั้น เมื่อถือว่าเราเชื่อต่อคำสอนของพระองค์แล้วจะมาลังเลใจทำไมกันอยู่ จงได้ตัดสินใจลงมือ เจริญกันเสียเถิด อนึ่ง การเจริญสติมิใช่เป็นของเสียหายอะไร มีแต่ทำให้ผู้เจริญดียิ่งขึ้น เพราะสติเป็น สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนา เมื่อได้สติแล้วแต่ยังไม่ดีพอก็จะทำให้ดีขึ้น เมื่อสติดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น “คนพลั้ง ๆ เผลอ ๆ จดจำอะไรไม่ค่อยจะได้ เขาเรียกว่าคนสติไม่ดี ตนไม่มีสติเสียเลย เขาถือว่าคนบ้า” บุพพภาคเบื้องต้นก่อนจะ ลงมือฝึกอบรม พึงทำมนสิการไว้ในใจก่อน เช่น ให้เห็นโทษทุกข์เบื่อหน่ายในกามคุณทั้งห้า แล้วมี ความเชื่อมั่นในการเจริญสติปัฏฐานสี่ไม่มีลังเลสงสัย ยอมสละกังวลใด ๆ ทั้งหมดแล้วตั้งสติลงใน ปัจจุบันธรรม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น