วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
มรรคผลนิพพานไม่ไกลนะ มันไกลสำหรับคนซึ่งไม่รู้จักวิธี
ทางบรรลุธรรม (๘) เมื่อปล่อยวางจิต จิตจะทวนกระแสเข้าหาธาตุรู้ ถึงโคตรภูญาณ ...
27 เม.ย. 2555 - ทางบรรลุธรรม (๘) เมื่อปล่อยวางจิต จิตจะทวนกระแสเข้าหาธาตุรู้ ถึงโคตรภูญาณ แล้ว อริยมรรคก็จะเกิดขึ้น. หลวงพ่อปราโมทย์ : พอจิตเข้าฌานแล้วคราวนี้ สติระลึกรู้อยู่ที่จิตนะ ไม่ ได้เจตนาระลึก มันรู้เองเพราะมันไม่แส่ส่ายไปที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่แส่ส่ายไปในความ คิด ก็หยุดตรงที่จิตดวงเดียว สติหยั่งลงที่จิต จิตตั้งมั่นอยู่ที่จิต ..
จิตทวนกระแสเข้าหาธาตุุรู้
ทางบรรลุธรรม (๘) เมื่อปล่อยวางจิต จิตจะทวนกระแสเข้าหาธาตุรู้ ถึงโคตรภูญาณ ...
27 เม.ย. 2555 - ทางบรรลุธรรม (๘) เมื่อปล่อยวางจิต จิตจะทวนกระแสเข้าหาธาตุรู้ ถึงโคตรภูญาณ แล้ว อริยมรรคก็จะเกิดขึ้น. หลวงพ่อปราโมทย์ : พอจิตเข้าฌานแล้วคราวนี้ สติระลึกรู้อยู่ที่จิตนะ ไม่ ได้เจตนาระลึก มันรู้เองเพราะมันไม่แส่ส่ายไปที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่แส่ส่ายไปในความ คิด ก็หยุดตรงที่จิตดวงเดียว สติหยั่งลงที่จิต จิตตั้งมั่นอยู่ที่จิต ..
เราภาวนานะ เราคอยรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงไปเรื่อย รู้บ้างหลงบ้าง อย่าไ...
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอาจารย์มากครับ ที่ให้โอกาส
หลวงพ่อได้รับทราบถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีของทุกคนแล้ว ขออนุโมทนากับทุกคนสำหรับคำอวยพรทั้งปวง
หลวงพ่อเริ่มอาพาธครั้งนี้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ มีอาการเหนื่อยหอบ ไอ และต่อมน้ำเหลืองโต จึงได้เข้ารับการตรวจอาการเบื้องต้นในโรงพยาบาลในย่านพัทยา ถัดจากนั้นจึงเดินทางเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลของรัฐในกรุงเทพ ผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาเมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2559) สรุปได้ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำเป็นจะต้องรักษาตัวนานราว 8 เดือน ระหว่างนี้ภูมิต้านทานจะต่ำมาก แพทย์ผู้ดูแลจึงแนะนำให้งดการแสดงธรรมทั้งที่วัดและนอกสถานที่ รวมทั้งไม่ต้องการให้มีการเยี่ยมไข้เพราะเป็นผลเสียต่อหลวงพ่อมากกว่าผลดี
หลวงพ่อตรากตรำทำงานเผยแผ่มานานแล้ว ช่วงนี้ต้องขอลาป่วยชั่วคราว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจภาวนาเพราะโลกนี้หาความแน่นอนใดๆ ไม่ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะภาวนาไม่ได้ เพราะหลวงพ่อได้ถ่ายทอดธรรมะภาคปฏิบัติไว้ครบถ้วนแล้ว ให้ใช้โยนิโสมนสิการคือความแยบคายในการสังเกตการปฏิบัติของตนให้มาก ว่าถูกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าติดขัดจริงๆ ก็ให้ปรึกษาบุคคลที่หลวงพ่อมอบหมายให้ช่วยสอนได้ อย่าฉวยโอกาสที่หลวงพ่ออาพาธไปเที่ยวเถลไถลหรือขี้เกียจปฏิบัติก็แล้วกัน
หลวงพ่อไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา นอกจากให้พวกเราขยันภาวนาเพื่อผ่อนคลายความทุกข์ของตนเอง และเพื่อช่วยกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ถ้าคิดถึงหลวงพ่อ ก็ขอให้คิดถึงธรรม
เจริญพร
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
1 มิถุนายน 2559
บางท่านเห็นว่ามันเป็นทุกข์ พวกที่ทรงสมาธิมากๆ จะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ เพราะถ้าท่านไม่เห็นว่าจิตผู้รู้เป็นทุกข์นะ จะไม่ยอมปล่อย เพราะสมาธิมากตัวผู้รู้มีแต่ความสุขนะ ถ้าปัญญาแก่รอบจริงๆจะเห็นเลย เป็นตัวทุกข์ ทุกข์แบบไม่มีอะไรเหมือน พอเห็นว่าตัวผู้รู้ก็เป็นทุกข์ จิตมีอันเดียวนะ คือจิตที่เป็นทุกข์ มีแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย ไม่ใช่ว่าจิตมีทุกข์บ้างสุขบ้าง แต่เดิมเคยเข้าใจว่าจิตนี้ ถ้ารู้ตัวเป็นผู้รู้แล้วมีความสุข ถ้าเป็นผู้หลงแล้วมีความทุกข์ เข้าใจผิด แต่เมื่อไรสติปัญญาแก่รอบ ตัวจิตเองนั้นแหละตัวทุกข์ล้วนๆ จะปล่อยวาง ตรงคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนบอกว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ล้วนๆนะ ไม่ใช่ทุกข์บ้างสุขบ้าง พวกเราแค่เห็นร่างกาย ก็ยังเห็นว่าร่างกายเราทุกข์บ้างสุขบ้างเลย อย่าว่าแต่จิตใจเลย จิตใจยังไงก็ยังเห็นว่าทุกข์บ้างสุขบ้าง สุขทุกข์ของเราอยู่ที่ว่า ได้อย่างที่อยากมั้ย ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากก็ทุกข์ ถ้าได้อย่างที่อยากก็ไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นทุกข์ของเราที่พวกเรารู้จัก นี่คือทุกข์จากความไม่สมอยาก ส่วนทุกข์ของพระอนาคามีที่ท่านรู้เนี่ย ทุกข์เพราะความอยาก เห็นว่าถ้าอยากแล้วทุกข์นะ ของเราเห็นได้แค่ว่า ถ้าไม่สมอยากแล้วทุกข์ พระอนาคามีเห็นว่า แค่มีความอยากก็ทุกข์แล้ว ก็ยังมีสองอย่าง มีทุกข์กับสุข ถ้าอยากหรือไม่อยาก ถ้าปัญญาเห็นแจ้งจริงๆเลย มีแต่ทุกข์ล้วนๆ จะอยากหรือไม่อยากก็ทุกข์แล้ว ทุกข์ไม่ใช่อยู่ที่อยากแล้ว ทุกข์อยู่ที่ตัวขันธ์เองแหละเป็นตัวทุกข์ อย่างนี้เรียกว่ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้ว จิตจะปล่อยวางลง ปล่อยวางจิต ทีนี้บางท่านก็เห็นว่าจิตนี้เป็นสุญญตา เป็นความว่างเปล่าจากความเป็นตัวเป็นตน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา คืน ยอมคืน ยอมสลัดคืนให้กับโลกเขาไป พวกนี้เรียกว่าสุญญตวิโมกข์ พวกปัญญากล้า หลุดพ้นด้วยการเห็นจิตใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา ปลดปล่อยออกไปแล้ววางออกไป
หลวงพ่อได้รับทราบถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีของทุกคนแล้ว ขออนุโมทนากับทุกคนสำหรับคำอวยพรทั้งปวง
หลวงพ่อเริ่มอาพาธครั้งนี้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ มีอาการเหนื่อยหอบ ไอ และต่อมน้ำเหลืองโต จึงได้เข้ารับการตรวจอาการเบื้องต้นในโรงพยาบาลในย่านพัทยา ถัดจากนั้นจึงเดินทางเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลของรัฐในกรุงเทพ ผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาเมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2559) สรุปได้ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำเป็นจะต้องรักษาตัวนานราว 8 เดือน ระหว่างนี้ภูมิต้านทานจะต่ำมาก แพทย์ผู้ดูแลจึงแนะนำให้งดการแสดงธรรมทั้งที่วัดและนอกสถานที่ รวมทั้งไม่ต้องการให้มีการเยี่ยมไข้เพราะเป็นผลเสียต่อหลวงพ่อมากกว่าผลดี
หลวงพ่อตรากตรำทำงานเผยแผ่มานานแล้ว ช่วงนี้ต้องขอลาป่วยชั่วคราว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจภาวนาเพราะโลกนี้หาความแน่นอนใดๆ ไม่ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะภาวนาไม่ได้ เพราะหลวงพ่อได้ถ่ายทอดธรรมะภาคปฏิบัติไว้ครบถ้วนแล้ว ให้ใช้โยนิโสมนสิการคือความแยบคายในการสังเกตการปฏิบัติของตนให้มาก ว่าถูกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าติดขัดจริงๆ ก็ให้ปรึกษาบุคคลที่หลวงพ่อมอบหมายให้ช่วยสอนได้ อย่าฉวยโอกาสที่หลวงพ่ออาพาธไปเที่ยวเถลไถลหรือขี้เกียจปฏิบัติก็แล้วกัน
หลวงพ่อไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา นอกจากให้พวกเราขยันภาวนาเพื่อผ่อนคลายความทุกข์ของตนเอง และเพื่อช่วยกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ถ้าคิดถึงหลวงพ่อ ก็ขอให้คิดถึงธรรม
เจริญพร
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
1 มิถุนายน 2559
บางท่านเห็นว่ามันเป็นทุกข์ พวกที่ทรงสมาธิมากๆ จะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ เพราะถ้าท่านไม่เห็นว่าจิตผู้รู้เป็นทุกข์นะ จะไม่ยอมปล่อย เพราะสมาธิมากตัวผู้รู้มีแต่ความสุขนะ ถ้าปัญญาแก่รอบจริงๆจะเห็นเลย เป็นตัวทุกข์ ทุกข์แบบไม่มีอะไรเหมือน พอเห็นว่าตัวผู้รู้ก็เป็นทุกข์ จิตมีอันเดียวนะ คือจิตที่เป็นทุกข์ มีแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย ไม่ใช่ว่าจิตมีทุกข์บ้างสุขบ้าง แต่เดิมเคยเข้าใจว่าจิตนี้ ถ้ารู้ตัวเป็นผู้รู้แล้วมีความสุข ถ้าเป็นผู้หลงแล้วมีความทุกข์ เข้าใจผิด แต่เมื่อไรสติปัญญาแก่รอบ ตัวจิตเองนั้นแหละตัวทุกข์ล้วนๆ จะปล่อยวาง ตรงคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนบอกว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ล้วนๆนะ ไม่ใช่ทุกข์บ้างสุขบ้าง พวกเราแค่เห็นร่างกาย ก็ยังเห็นว่าร่างกายเราทุกข์บ้างสุขบ้างเลย อย่าว่าแต่จิตใจเลย จิตใจยังไงก็ยังเห็นว่าทุกข์บ้างสุขบ้าง สุขทุกข์ของเราอยู่ที่ว่า ได้อย่างที่อยากมั้ย ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากก็ทุกข์ ถ้าได้อย่างที่อยากก็ไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นทุกข์ของเราที่พวกเรารู้จัก นี่คือทุกข์จากความไม่สมอยาก ส่วนทุกข์ของพระอนาคามีที่ท่านรู้เนี่ย ทุกข์เพราะความอยาก เห็นว่าถ้าอยากแล้วทุกข์นะ ของเราเห็นได้แค่ว่า ถ้าไม่สมอยากแล้วทุกข์ พระอนาคามีเห็นว่า แค่มีความอยากก็ทุกข์แล้ว ก็ยังมีสองอย่าง มีทุกข์กับสุข ถ้าอยากหรือไม่อยาก ถ้าปัญญาเห็นแจ้งจริงๆเลย มีแต่ทุกข์ล้วนๆ จะอยากหรือไม่อยากก็ทุกข์แล้ว ทุกข์ไม่ใช่อยู่ที่อยากแล้ว ทุกข์อยู่ที่ตัวขันธ์เองแหละเป็นตัวทุกข์ อย่างนี้เรียกว่ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้ว จิตจะปล่อยวางลง ปล่อยวางจิต ทีนี้บางท่านก็เห็นว่าจิตนี้เป็นสุญญตา เป็นความว่างเปล่าจากความเป็นตัวเป็นตน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา คืน ยอมคืน ยอมสลัดคืนให้กับโลกเขาไป พวกนี้เรียกว่าสุญญตวิโมกข์ พวกปัญญากล้า หลุดพ้นด้วยการเห็นจิตใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา ปลดปล่อยออกไปแล้ววางออกไป
เราภาวนานะ เราคอยรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงไปเรื่อย รู้บ้างหลงบ้าง อย่าไ...
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอาจารย์มากครับ ที่ให้โอกาส
หลวงพ่อได้รับทราบถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีของทุกคนแล้ว ขออนุโมทนากับทุกคนสำหรับคำอวยพรทั้งปวง
หลวงพ่อเริ่มอาพาธครั้งนี้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ มีอาการเหนื่อยหอบ ไอ และต่อมน้ำเหลืองโต จึงได้เข้ารับการตรวจอาการเบื้องต้นในโรงพยาบาลในย่านพัทยา ถัดจากนั้นจึงเดินทางเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลของรัฐในกรุงเทพ ผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาเมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2559) สรุปได้ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำเป็นจะต้องรักษาตัวนานราว 8 เดือน ระหว่างนี้ภูมิต้านทานจะต่ำมาก แพทย์ผู้ดูแลจึงแนะนำให้งดการแสดงธรรมทั้งที่วัดและนอกสถานที่ รวมทั้งไม่ต้องการให้มีการเยี่ยมไข้เพราะเป็นผลเสียต่อหลวงพ่อมากกว่าผลดี
หลวงพ่อตรากตรำทำงานเผยแผ่มานานแล้ว ช่วงนี้ต้องขอลาป่วยชั่วคราว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจภาวนาเพราะโลกนี้หาความแน่นอนใดๆ ไม่ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะภาวนาไม่ได้ เพราะหลวงพ่อได้ถ่ายทอดธรรมะภาคปฏิบัติไว้ครบถ้วนแล้ว ให้ใช้โยนิโสมนสิการคือความแยบคายในการสังเกตการปฏิบัติของตนให้มาก ว่าถูกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าติดขัดจริงๆ ก็ให้ปรึกษาบุคคลที่หลวงพ่อมอบหมายให้ช่วยสอนได้ อย่าฉวยโอกาสที่หลวงพ่ออาพาธไปเที่ยวเถลไถลหรือขี้เกียจปฏิบัติก็แล้วกัน
หลวงพ่อไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา นอกจากให้พวกเราขยันภาวนาเพื่อผ่อนคลายความทุกข์ของตนเอง และเพื่อช่วยกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ถ้าคิดถึงหลวงพ่อ ก็ขอให้คิดถึงธรรม
เจริญพร
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
1 มิถุนายน 2559
บางท่านเห็นว่ามันเป็นทุกข์ พวกที่ทรงสมาธิมากๆ จะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ เพราะถ้าท่านไม่เห็นว่าจิตผู้รู้เป็นทุกข์นะ จะไม่ยอมปล่อย เพราะสมาธิมากตัวผู้รู้มีแต่ความสุขนะ ถ้าปัญญาแก่รอบจริงๆจะเห็นเลย เป็นตัวทุกข์ ทุกข์แบบไม่มีอะไรเหมือน พอเห็นว่าตัวผู้รู้ก็เป็นทุกข์ จิตมีอันเดียวนะ คือจิตที่เป็นทุกข์ มีแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย ไม่ใช่ว่าจิตมีทุกข์บ้างสุขบ้าง แต่เดิมเคยเข้าใจว่าจิตนี้ ถ้ารู้ตัวเป็นผู้รู้แล้วมีความสุข ถ้าเป็นผู้หลงแล้วมีความทุกข์ เข้าใจผิด แต่เมื่อไรสติปัญญาแก่รอบ ตัวจิตเองนั้นแหละตัวทุกข์ล้วนๆ จะปล่อยวาง ตรงคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนบอกว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ล้วนๆนะ ไม่ใช่ทุกข์บ้างสุขบ้าง พวกเราแค่เห็นร่างกาย ก็ยังเห็นว่าร่างกายเราทุกข์บ้างสุขบ้างเลย อย่าว่าแต่จิตใจเลย จิตใจยังไงก็ยังเห็นว่าทุกข์บ้างสุขบ้าง สุขทุกข์ของเราอยู่ที่ว่า ได้อย่างที่อยากมั้ย ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากก็ทุกข์ ถ้าได้อย่างที่อยากก็ไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นทุกข์ของเราที่พวกเรารู้จัก นี่คือทุกข์จากความไม่สมอยาก ส่วนทุกข์ของพระอนาคามีที่ท่านรู้เนี่ย ทุกข์เพราะความอยาก เห็นว่าถ้าอยากแล้วทุกข์นะ ของเราเห็นได้แค่ว่า ถ้าไม่สมอยากแล้วทุกข์ พระอนาคามีเห็นว่า แค่มีความอยากก็ทุกข์แล้ว ก็ยังมีสองอย่าง มีทุกข์กับสุข ถ้าอยากหรือไม่อยาก ถ้าปัญญาเห็นแจ้งจริงๆเลย มีแต่ทุกข์ล้วนๆ จะอยากหรือไม่อยากก็ทุกข์แล้ว ทุกข์ไม่ใช่อยู่ที่อยากแล้ว ทุกข์อยู่ที่ตัวขันธ์เองแหละเป็นตัวทุกข์ อย่างนี้เรียกว่ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้ว จิตจะปล่อยวางลง ปล่อยวางจิต ทีนี้บางท่านก็เห็นว่าจิตนี้เป็นสุญญตา เป็นความว่างเปล่าจากความเป็นตัวเป็นตน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา คืน ยอมคืน ยอมสลัดคืนให้กับโลกเขาไป พวกนี้เรียกว่าสุญญตวิโมกข์ พวกปัญญากล้า หลุดพ้นด้วยการเห็นจิตใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา ปลดปล่อยออกไปแล้ววางออกไป
หลวงพ่อได้รับทราบถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีของทุกคนแล้ว ขออนุโมทนากับทุกคนสำหรับคำอวยพรทั้งปวง
หลวงพ่อเริ่มอาพาธครั้งนี้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ มีอาการเหนื่อยหอบ ไอ และต่อมน้ำเหลืองโต จึงได้เข้ารับการตรวจอาการเบื้องต้นในโรงพยาบาลในย่านพัทยา ถัดจากนั้นจึงเดินทางเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลของรัฐในกรุงเทพ ผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาเมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2559) สรุปได้ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำเป็นจะต้องรักษาตัวนานราว 8 เดือน ระหว่างนี้ภูมิต้านทานจะต่ำมาก แพทย์ผู้ดูแลจึงแนะนำให้งดการแสดงธรรมทั้งที่วัดและนอกสถานที่ รวมทั้งไม่ต้องการให้มีการเยี่ยมไข้เพราะเป็นผลเสียต่อหลวงพ่อมากกว่าผลดี
หลวงพ่อตรากตรำทำงานเผยแผ่มานานแล้ว ช่วงนี้ต้องขอลาป่วยชั่วคราว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจภาวนาเพราะโลกนี้หาความแน่นอนใดๆ ไม่ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะภาวนาไม่ได้ เพราะหลวงพ่อได้ถ่ายทอดธรรมะภาคปฏิบัติไว้ครบถ้วนแล้ว ให้ใช้โยนิโสมนสิการคือความแยบคายในการสังเกตการปฏิบัติของตนให้มาก ว่าถูกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าติดขัดจริงๆ ก็ให้ปรึกษาบุคคลที่หลวงพ่อมอบหมายให้ช่วยสอนได้ อย่าฉวยโอกาสที่หลวงพ่ออาพาธไปเที่ยวเถลไถลหรือขี้เกียจปฏิบัติก็แล้วกัน
หลวงพ่อไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา นอกจากให้พวกเราขยันภาวนาเพื่อผ่อนคลายความทุกข์ของตนเอง และเพื่อช่วยกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ถ้าคิดถึงหลวงพ่อ ก็ขอให้คิดถึงธรรม
เจริญพร
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
1 มิถุนายน 2559
บางท่านเห็นว่ามันเป็นทุกข์ พวกที่ทรงสมาธิมากๆ จะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ เพราะถ้าท่านไม่เห็นว่าจิตผู้รู้เป็นทุกข์นะ จะไม่ยอมปล่อย เพราะสมาธิมากตัวผู้รู้มีแต่ความสุขนะ ถ้าปัญญาแก่รอบจริงๆจะเห็นเลย เป็นตัวทุกข์ ทุกข์แบบไม่มีอะไรเหมือน พอเห็นว่าตัวผู้รู้ก็เป็นทุกข์ จิตมีอันเดียวนะ คือจิตที่เป็นทุกข์ มีแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย ไม่ใช่ว่าจิตมีทุกข์บ้างสุขบ้าง แต่เดิมเคยเข้าใจว่าจิตนี้ ถ้ารู้ตัวเป็นผู้รู้แล้วมีความสุข ถ้าเป็นผู้หลงแล้วมีความทุกข์ เข้าใจผิด แต่เมื่อไรสติปัญญาแก่รอบ ตัวจิตเองนั้นแหละตัวทุกข์ล้วนๆ จะปล่อยวาง ตรงคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนบอกว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ล้วนๆนะ ไม่ใช่ทุกข์บ้างสุขบ้าง พวกเราแค่เห็นร่างกาย ก็ยังเห็นว่าร่างกายเราทุกข์บ้างสุขบ้างเลย อย่าว่าแต่จิตใจเลย จิตใจยังไงก็ยังเห็นว่าทุกข์บ้างสุขบ้าง สุขทุกข์ของเราอยู่ที่ว่า ได้อย่างที่อยากมั้ย ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากก็ทุกข์ ถ้าได้อย่างที่อยากก็ไม่ทุกข์ เพราะฉะนั้นทุกข์ของเราที่พวกเรารู้จัก นี่คือทุกข์จากความไม่สมอยาก ส่วนทุกข์ของพระอนาคามีที่ท่านรู้เนี่ย ทุกข์เพราะความอยาก เห็นว่าถ้าอยากแล้วทุกข์นะ ของเราเห็นได้แค่ว่า ถ้าไม่สมอยากแล้วทุกข์ พระอนาคามีเห็นว่า แค่มีความอยากก็ทุกข์แล้ว ก็ยังมีสองอย่าง มีทุกข์กับสุข ถ้าอยากหรือไม่อยาก ถ้าปัญญาเห็นแจ้งจริงๆเลย มีแต่ทุกข์ล้วนๆ จะอยากหรือไม่อยากก็ทุกข์แล้ว ทุกข์ไม่ใช่อยู่ที่อยากแล้ว ทุกข์อยู่ที่ตัวขันธ์เองแหละเป็นตัวทุกข์ อย่างนี้เรียกว่ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้ว จิตจะปล่อยวางลง ปล่อยวางจิต ทีนี้บางท่านก็เห็นว่าจิตนี้เป็นสุญญตา เป็นความว่างเปล่าจากความเป็นตัวเป็นตน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา คืน ยอมคืน ยอมสลัดคืนให้กับโลกเขาไป พวกนี้เรียกว่าสุญญตวิโมกข์ พวกปัญญากล้า หลุดพ้นด้วยการเห็นจิตใจนี้ไม่ใช่ตัวเรา ปลดปล่อยออกไปแล้ววางออกไป
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน
บทวันทา พระพุทธเจ้า-ครูบาอาจารย์ - วัดป่ามหาชัย
บทวันทาพระพุทธเจ้า บทวันทาครูบาอาจารย์ บทวันทาตอนเช้า บทวันทาพระ บทวันทา เสมา (สีมา) อุกาสะ วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัตถะ ฐาเน สุปะติฏฐิตัง สารีริกะธาตุ มะ หาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐา เน คะมะเน จาปิ สัพพะทาฯ ( กราบ )
วันทาตอนเย็น - วัดพิชโสภาราม
วันทาตอนเย็น วันทามิ ภันเต, เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน, สุปะติฏฐิตัง, สารีริกะธาตุมะหา-โพธิง , พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทา, กายะสา, วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน, อา สะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา ฯ (กราบ) อุกาสะ วันทามิ ภันเต, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต, มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง, สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง, ...
วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน - YouTube
https://www.youtube.com/watch?v=E6w9sS4JD54
10 มิ.ย. 2560 - อัปโหลดโดย สมพงศ์ อินดัสเตรียล อิเล็กทรอนิคส์
วันทามิ ภันเต, เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเน, สุปะติฏฐิตัง, สารีริกะธาตุมะหา-โพธิง, พุทธะรูปัง สะคำขานนาค - dmyCenter
อุกาสะ วันทามิ ภันเต, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต,. มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโม ทิตัพพัง,. สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง,. สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ. ( นั่งคุกเข่า ประนมมือ กล่าวว่า ). สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. ( กราบ ๑ ครั้ง ประนมมือ กล่าวว่า ). อุกาสะ ทะ วารัตตะเยนะ กะตัง,. สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. ( กราบ ๑ ครั้ง ยืนขึ้นประนมมือ ...
คำวันทาสีมา และคำวันทาพระประธาน - dmyCenter
อุกาสะ วันทามิ ภันเต, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต,. มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโม ทิตัพพัง,. สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง,. สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ. ( นั่งคุกเข่า ประนมมือ กล่าวว่า ). สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. ( กราบ ๑ ครั้ง ประนมมือ กล่าวว่า ). อุกาสะ ทะ วารัตตะเยนะ กะตัง,. สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต. ( กราบ ๑ ครั้ง ยืนขึ้นประนมมือ ...
บทสวดมนต์
วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ อาราเม พัทธะเสมายัง โพธิรุกขัง เจฏิ ยัง พุทธะรูปัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ ปัจเจกะพุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะ เม ภันเต วันทามิ คุรูอุปปัชฌาอาจาริยะคุณัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต. วันทามิ ภันเต ...
บทวันทา อุกาสะ วันทามิ ภันเต, เจติยัง... - Facebook
https://th-th.facebook.com/permalink.php?story_fbid=384827368339732&id...
บทวันทา อุกาสะ วันทามิ ภันเต, เจติยัง สัพพัง สัพพัตถะฐาเน สุปะติฏฐิตัง, สารีริกะธาตุ มะหาบทสวดขอขมาพระรัตนตรัย พร้อมคำแปล - บทสวดมนต์ - MThai
12 พ.ย. 2558 - อุกาสะ อัจจะโย โน ภันเต อัชชะขะมามิ ยะถาพาเล ยะถามุฬเห ยะถาอะกุสะเล เย มะยัง กะรัม หา เอวัง ภันเตมะยัง อัจจะโย โน ปะฎิคคัณหะถะ อายะติง สังวะเรยยามิ เถเรปะมาเทนะ ทะวา รัตตะเยนะกะตัง สัพพัง อะปะราทังขะมามิภันเต. ณ โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอขมาโทษ ต่อพระรัตนตรัย ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้สบประมาทพลาดพลั้ง ต่อพระพุทธ ...
บทวันทา
บทวันทา. (1/1). ap.41: วันทาน้อย วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโม ทามิฯ. ap.41: วันทาหลวง วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ สังฆัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต วันทามิ ...
อุปสมบทพิธี : Dhamma Department Store : Dhammathai.org
กุลบุตรผู้มีจิตศรัทธามุ่งขอบรรพชาเป็นสามเณร และขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธ ศาสนา ก่อนที่จะเข้าไปในพระอุโบสถนั้นต้องวันทาเสมาหน้าอุโบสถนั้นก่อน มี ๒ แบบ ให้ เลือกเอาเพียงแบบเดียว คำวันทาเสมาแบบที่ ๑ วันทามิ อาราเม พัทธะเสมายัง โพธิรุกขัง เจ ติยัง, สัพพะ เม โทสัง, ขะมะถะ เม ภันเต. ทุติยัมปิ วันทามิ อาราเม พัทธะเสมายัง โพธิรุขัง เจติ ยัง,
MC3PHAC เลิกผลิตแล้วแต่สามารถใช้ PIC18F3421มาแทน
เมื่อประมาณปี 2016 ผมได้ออกแบบ อินเวอร์เตอร์ปั้มน้ำใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งใช้ขับปั้มน้ำ AC220V ขนาด 1 แรงม้า โดยใช้ชิปเบอร์ MC3PHAC ทำออกมายังไม่ทันขาย ปรากฎว่า ชิปเบอร์ MC3PHAC เลิกผลิตและในท้องตลาดหมดเกลี้ยง ทำให้บอร์ดอินเวอร์เตอร์ของผมต้องเป็นหมันไป ผมจึงออกแบบและเขียนโปรแกรม IC PIC18F2431 ขึ้นมาแทนเบอร์ MC3PHAC โดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานจาก Microchip AN900 จากบอร์ดเดิมผมก็ตัดส่วนที่ใช้ IC MC3PHAC ออก แล้วเสียบบอร์ด AN900 เข้าแทน ต่อวงจรร่วมกับตัวอัพไฟจากแบตเตอรี่ 12V แล้วทำการทดสอบกับปั้มน้ำไดโว่ขนาด 1 แรงม้า ผลเป็นอย่างไรดูในคลิปครับ.
ใบอนุญาตมาตรฐานของ YouTube แสดงน้อยลง
เพิ่มความคิดเห็นสาธารณะ...
หมวดหมู่
ใบอนุญาต
ความคิดเห็น 2 รายการ
จัดเรียงตาม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)